ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการาบริหารจัดการน้ำที่เชียงใหม่จบไม่สวยหลังผู้เข้าร่วมแห่ต่อแถวรอรับเงินค่ารถ ทำห้องประชุมโล่งเหลือคนฟังไม่ถึงครึ่ง ด้านผลสรุปมีทั้งคนเห็นด้วย-คัดค้าน “อ่างเก็บน้ำแม่ขาน-แม่แจ่ม” ฝ่ายเห็นด้วยชี้แก่ปัญหาน้ำใช้ในการเกษตร-อุทกภัย ส่วนฝ่ายค้านแจงกระทบวิถีชีวิต แนะต้องให้ข้อมูลให้ชัดเจน-ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ประชาชนซึ่งเดินทางเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ (30 ต.ค.56) ทยอยออกมาตั้งแถวรอรับเงินค่าเดินทางจากทางราชการทั้งที่การประชุมยังไม่เสร็จสิ้น ขณะที่รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พอใจที่การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยการประชุมรับฟังความคิดเห็นในภาคบ่ายได้จัดให้ผู้เข้าร่วมการประชุม แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยจำนวน 20 กลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ขานและอ่างเก็บน้ำแม่แจ่ม ตามโมดูล A1 ในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ภายในห้องแสดงนิทรรศการซึ่งเป็นห้องประชุมหลักได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนภาคประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมแสดงความคิดเห็น
ก่อนที่ในเวลาประมาณ 15.30 น. ผู้เข้าร่วมประชุมที่แยกย้ายไปตามกลุ่มย่อยต่างๆ จะกลับเข้าสู่ห้องประชุมใหญ่ และมีตัวแทนของแต่ละกลุ่มมานำเสนอข้อสรุปที่ได้จากการประชุมในแต่ละกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาดังกล่าว ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมประชุมไม่ได้อยู่รับฟังการนำเสนอข้อสรุปจากการประชุมกลุ่มย่อย โดยต่างทยอยกันออกไปตั้งแถวที่บริเวณจุดลงทะเบียน เพื่อรอรับเงินค้าเดินทางจำนวน 400 บาท ซึ่งทางจังหวัดได้จัดสรรให้เป็นค่าเดินทางสำหรับผู้มาร่วมงานในกลุ่มของผู้ที่มีส่วนได้เสียหรือได้รับผลกระทบจากโครงการ และกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าผ่านทางระบบออนไลน์ ส่งผลให้เหลือผู้ที่รับฟังผลสรุปจากการประชุมกลุ่มย่อยภายในห้องไม่ถึงกึ่งหนึ่ง แม้ว่านายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายจำเริญ ยุติธรรมสกุล รองผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจะยังคงอยู่ร่วมรับฟังข้อสรุปก็ตาม
สำหรับผลสรุปที่ได้จากการประชุมกลุ่มย่อยทั้ง 20 กลุ่มมีสาระสำคัญโดยรวมคือ มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวและคัดค้านโครงการดังกล่าว โดยกลุ่มผู้ที่เห็นด้วยให้เหตุผลว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับใช้ในการเกษตรกรรม แก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ และบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ขณะที่กลุ่มที่คัดค้านเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรงในหลายๆ ด้าน และทั้งสองฝ่ายมีข้อเสนอแนะว่าควรมีการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการดำเนินการ พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุดและเป็นธรรม
ทั้งนี้ นายจำเริญ และนายวิเชียร ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมรับฟังความคิดเห็น โดยนายจำเริญกล่าวว่าการประชุมในวันนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์และดำเนินการได้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้ทางสมาคมสถิติแห่งประเทศไทยจะดำเนินการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป ขณะที่การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในจังหวัดอื่นๆ นั้นจะมีการดำเนินการในจังหวัดเป้าหมายต่างๆ ไปจนถึงวันที่ 6 ธ.ค. จากนั้นจะมีการรวบรวมข้อสรุปจากทุกจังหวัดเพื่อทำเป็นข้อสรุปในภาพรวมทั้งในรายจังหวัด รายลุ่มน้ำและรายภาค เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลและประชาชนชน
ขณะที่นายวิเชียร ระบุว่า พอใจกับภาพรวมของการจัดการประชุมที่สำเร็จลุล่วงด้วยดี และไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้มีมากกว่าเป้าที่กำหนด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากกลุ่มของผู้มีส่วนได้เสียหรือได้รับผลกระทบจำนวน 2,000 คน กลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางระบบออนไลน์ 2,312 คน จากจำนวนที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 2,883 คน และมีผู้ที่เดินทางมาร่วมรับฟังการประชุมในวันนี้อีกประมาณ 633 คน รวมมีผู้เข้าร่วมงานในวันนี้ประมาณ 4,945 คน
สำหรับข้อสรุปที่ได้จากการประชุมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยกับรัฐบาลในการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมและผู้ที่ไม่เห็นด้วย โดยมีการนำเสนอเหตุผลและข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งทางคณะทำงานจะได้นำข้อมูลทั้งหมดไปสรุปและนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป