พระนครศรีอยุธยา - รถตู้ป้ายดำทั่วประเทศกว่า 200 คัน รวมตัวปิดถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพฯ อำเภอวังน้อย กรุงเก่า เพื่อขอผ่อนผันการจับกุม และไม่พอใจที่รัฐบาลเพิกเฉยในการเรียกร้องเรื่องให้ผ่อนผัน พ.ร.บ.ขนส่ง ให้รถตู้ป้ายดำวิ่งรับจ้างเหมาแล้วถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่ขนส่งจับปรับในราคาแพง
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ หลัก กม.ที่ 53-54 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นางนิตยา นาโล ประธานสหกรณ์รถตู้สกลนคร พร้อมด้วยสมาชิกจากจังหวัดสกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 200 คัน ได้ทำการปิดถนนสายพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ ช่องทางด่วน จนทำให้รถติดเป็นแถวยาวเหยียดใช้ได้เฉพาะในช่องทางด่วนเพียงช่องทางเดียว ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องขอให้รัฐบาลมีการผ่อนผันการใช้รถตู้ป้ายดำที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นป้ายเหลืองสำหรับรับส่งผู้โดยสารสาธารณะ
โดยนางนิตยา กล่าวว่า การออกมารวมตัวปิดถนนของกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้โดยสารทั่วประเทศที่วิ่งรับจ้างเหมาไม่ได้ประจำทางให้บริการนักท่องเที่ยว และประชาชน ไม่พอใจที่รัฐบาลเพิกเฉยในการเรียกร้องเรื่องให้ผ่อนผัน พ.ร.บ.ขนส่ง ให้รถตู้ป้ายดำวิ่งรับจ้างเหมาแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ขนส่งจับปรับในราคาแพง
“ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องและทำการตกลงร่วมกันแล้วในที่ประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล คือ 1.เรียกร้องให้รถตู้ส่วนบุคคล สามารถรับจ้างอิสระ 2.ให้มีการผ่อนผันหรือระงับการจับกุมรถตู้ส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ในข้อหาใช้รถผิดประเภท แต่ข้อเรียกร้องทั้งหมดกลับถูกเพิกเฉย กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ฯ จึงได้มีการรวมตัวกัน โดยขณะนี้ขอให้ผ่อนผันการจับกุมก่อน ในช่วงที่อยู่ระหว่างการขอจดทะเบียน หากข้อเรียกร้องไม่ได้จะยกระดับการชุมนุมปิดถนนสายพหลโยธิน และทางขึ้นมอเตอร์เวย์ทันที โดยจะมีกลุ่มรถตู้จากภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ มาสนับสนุนอีกกว่า 3,000 คัน” นางนิตยา กล่าว
ต่อมา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน เจ้าหน้าที่ทางหลวงได้ร่วมกันมาอำนวยความสะดวกการจราจร และเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดย พล.ต.ต.เสริมคิด ได้ประสานกับ ผบ.ตร.ถึงเรื่องขอผ่อนผันการจับกุมในข้อหาใช้รถผิดประเภท
โดยอยู่ระหว่างการรอคำสั่งของ ผบ.ตร.ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมยอมเปิดเส้นทางในช่องทางด่วนเพิ่มให้อีก 1 เลน แต่ถ้าหากข้อตกลงไม่เป็นที่น่าพอใจทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะทำการปิดถนนทุกเส้นทางทันที เพื่อยกระดับการร้องขอข้อเรียกร้องดังกล่าว
จนกระทั่งต่อมา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ล่าสุดทาง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งด่วนที่สุดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมให้มีการผ่อนผันการจับในข้อหาใช้รถผิดประเภทในช่วงระยะของการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของกลุ่มรถตู้ และขอจดทะเบียนให้ถูกต้อง ซึ่งได้สร้างความพอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม และได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
ด้านนายสำเริง อดิษะ นายกสมาคมรถตู้โดยสารต่างจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางสมาคมรถตู้ฯ ขอปฏิเสธว่ารถตู้ในสมาคมกว่า 4,000 คันทั่วประเทศ ไม่เกี่ยวข้องกับการปิดถนนครั้งนี้ รถตู้ป้ายดำที่มาประท้วงเป็นรถที่ไม่สังกัดสมาคมฯ
ขณะที่นายวิชัย สุขผล แกนนำผู้ประสานงานรถตู้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มารวมตัวปิดถนนสายพลโยธินช่องทางด่วน เส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ กล่าวว่า กลุ่มรถตู้ป้ายดำปิดถนนประท้วงครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องขอให้ผ่อนผันการใช้รถตู้ป้ายดำที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นป้ายเหลืองสำหรับรับส่งผู้โดยสารสาธารณะ วิ่งในช่วงนี้ไปก่อน ด้วยปัจจุบันไม่สามารถวิ่งรับจ้างได้ เพราะตำรวจตั้งด่านตรวจจับกุม จึงต้องรวมตัวปิดถนนจนกว่ารัฐบาลและตำรวจจะรับปากว่าจะผ่อนผันตามข้อเรียกร้อง
นอกจากนี้มีรายงานมีรถตู้ป้ายดำอีกกว่า 300 คัน พยายามจะวิ่งมาจุดที่ประท้วง แต่ถูกตำรวจทางหลวง สกัดอยู่ในเขต อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง อ.หนองแค และ อ.แก่งคอย จ.สระแก้ว
