น้ำท่วมเมืองโคราชเริ่มลด หลังผันพ้น “ลำตะคอง” รักษาเมืองตาม “ปลอด” สั่ง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - น้ำท่วมเมืองโคราชเริ่มลดระดับ หลังชลประทานผันน้ำออกจาก “ลำตะคอง” เพื่อรักษาเมือง ไปทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน ปชช. ที่ลำเชิงไกรเป็นระลอกที่ 3 แทน ด้าน “ปลอดประสพ” บินตรวจน้ำท่วมโคราช สั่งรักษาที่ตั้งเมือง-รพ.ไว้ให้ได้ ชี้อีก 3-4 วันมวลน้ำถึง อ.พิมาย คาดท่วมสูงอีก 50 ซม. กำชับผู้ว่าฯ ทำทุกวิถีทางไม่ให้น้ำท่วมปราสาทหินพิมาย และสถานที่ราชการ เผยต้องเลือกปฏิบัติเป็นธรรมดาทุกคนไม่เท่าเทียมกัน

ช่วงบ่ายวันนี้ (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์มวลน้ำลำตะคองปริมาณมาก ทะลักท่วมชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา รวม 24 ชุมชน เดือดร้อน 1,300 ครัวเรือน รวมกว่า 4,300 คน ว่า ล่าสุด ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนริมลำตะคองที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูง เช่น บริเวณชุมชนมิตรภาพซอย 4 เทศบาลนครนครราชสีมา ขณะนี้มีน้ำท่วมถนน และบ้านเรือนประชาชนตามซอยต่างๆ สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร (ซม.) จากเดิมสูง 60-80 ซม. ส่วนชุมชนเกาะลอย น้ำลดลงเหลือ 50-80 ซม. จากเดิม 80 ซม.-2 เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครราชสีมา ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ เนื่องจากทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้บริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองนครราชสีมา ด้วยการผันน้ำลำตะคองออกไปยังลำบริบูรณ์ โดยอาคารแบ่งน้ำละลมหม้อ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา แล้วผันต่อไปยังบึงพุดซา ก่อนไหลงลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 66 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที ขณะที่ปล่อยลงไปตามลำตะคอง ตามเดิม ที่ไหลเข้าตัวเมืองนครราชสีมาแค่ 15 ลบ.ม./ วินาที เท่านั้น

ขณะเดียวกัน มวลน้ำจากลำตะคองปริมาณมากที่ถูกผันไปลงยังลำเชิงไกรดังกล่าว ได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร ในหมู่บ้านลำเชิงไกร หมู่ 9 ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นรอบที่ 3 ระดับน้ำสูงประมาณ 50-60 ซม. และท่วมหมู่บ้านพุดซา ต.พุดซา สูง 30-40 ซม. และขยายวงกว้างต่อเนื่อง

ส่วนที่ศูนย์บริการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยในชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 ซึ่งเป็นชุมชนแรกที่ถูกน้ำจากลำตะคอง ทะลักเข้าท่วม โดยมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายอุทัย มิ่งขวัญ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม

นายปลอดประสพ กล่าวกับประชาชนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมได้สั่งการมาว่า โคราชเป็นเมืองเก่าแก่ เป็นหัวใจของภาคอีสาน ห้ามให้น้ำท่วม และท่วมไม่ได้ ตนจึงเดินทางมาตรวจติดตามเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าตัว อ.เมืองโคราช ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ อ.พิมาย น่าห่วง อีก 3-4 วัน น้ำจากหลายสายจะไปรวมที่นั่นต้องหาทางป้องกันไว้ให้ได้ คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มอีกประมาณ 30-50 ซม. จากปัจจุบันในที่ลุ่มมีน้ำท่วมขังประมาณ 20-30 ซม.

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ยืนยันได้ว่า น้ำที่ท่วมมือโคราชไม่ได้มาจากการปล่อยน้ำของเขื่อนลำตะคองแต่อย่างใด ทุกวันนี้ยังปิดเขื่อนอยู่ และสามารถรับน้ำได้อีกถึง 50 ล้าน ลบ.ม. แต่น้ำที่ท่วมนั้นเป็นน้ำใต้เขื่อน และมาจากลำน้ำสาขาของลำตะคอง จากการบินตรวจสภาพน้ำท่วมพบว่า ลำน้ำลำตะคองทุกวันนี้เล็กมากเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ ฉะนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องฟื้นฟูลำตะคองให้เป็นทางผ่านของน้ำที่ปลอดภัยแก่ทุกคนตลอดลำน้ำ และตัวเมืองโคราช ถ้าสามารถขยายสองฝั่งคลองได้ข้างละ 3-4 เมตร ปัญหาจะหมดไปโดยสิ้นเชิง รัฐบาลยินดีสนับสนุนเงินงบประมาณพร้อมขุดคูคลองทำถนนให้อีก

นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า ในส่วนของ อ.พิมาย ได้สั่งการให้ทางจังหวัดนครราชสีมา ทำเขื่อนป้องกันไว้ให้ได้ จุดสำคัญคือ ปราสาทหินพิมาย ต้องไม่ให้น้ำเข้าไปท่วมอย่างเด็ดขาด รวมถึงถนนหลัก โรงพยาบาล สถานที่ราชการที่ประชาชนต้องไปใช้บริการ แต่จะไม่ให้ท่วมทั้งเมืองเป็นไปไม่ได้ ทุ่งสัมฤทธิ์ก็คงท่วม แต่การผันน้ำไม่ใช่ผันไปทิ้งแต่ผันไปเก็บไว้เพื่อใช้หน้าแล้ง

ต่อข้อถามที่ว่า ดูเหมือนภาครัฐจะป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจเป็นหลักแล้วผันน้ำออกไปท่วมบ้านเรือนและไร่นาประชาชนรอบนอกใช่หรือไม่ นายปลอดประสพ ตอบว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าคิดอย่างนั้นเรียกว่า เป็นการคิดเห็นแก่ได้ ในโลกนี้เราอยู่ด้วยกันมีผู้ใหญ่ มีเด็ก มีคนป่วย มีคนธรรมดา แม้แต่คนเราให้ความสำคัญไม่เท่ากัน คนธรรมดากับคนเจ็บเราก็ให้ความสำคัญแตกต่างกัน ฉันใดก็ฉันนั้น

“เรื่องของการป้องกันอุทกภัยก็ต้องให้ความสำคัญที่แตกต่างกัน ที่ตั้งของเมือง โรงพยาบาล โรงเรียน ต้องรักษาไว้ให้ได้ เรารักษาเมือง ไม่ใช่รักษาให้คนรวยปลอดภัยแล้วคนจนเดือดร้อน นั่นไม่ใช่ และผมมั่นใจว่าจะป้องกันตัวปราสาทหินพิมายไว้ได้แน่นอน เพราะบรรพบุรุษอุตส่าห์รักษามาได้เป็นร้อยเป็นพันปี มันจะมาท่วมสมัยเราก็ให้มันรู้ไป” นายปลอดประสพกล่าว