เพชรบูรณ์ - ผอ.อนุรักษ์ 11 ระดมกำลังสแกนพื้นที่ 1.3 หมื่นไร่ ป่า อช.เขาค้อ น้ำก้อ-น้ำชุน หลังพบนายทุนบุกรุกพยายามออกโฉนด แบ่งกำลัง 3 พิสูจน์สิทธิครอบครอง 7 หมู่บ้าน เตรียมเสนออธิบดีกรมอุทยานฯ แก้ปัญหาพื้นที่บุกรุกภายใน 7 วัน
วันนี้ (25 ต.ค.) นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 (พิษณุโลก) สั่งระดมพลเจ้าหน้าที่ 260 นาย ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ น้ำชุน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมผสานกำลังทหาร กองอำนวยการปลูกป่า กองทัพภาคที่ 3 เอกซเรย์ปัญหารุกป่าพื้นที่ 13,000 ไร่ ในผืนป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ
ทั้งนี้ ได้แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ชุดที่ 1 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ พร้อมส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์จำนวน 103 นาย ตรวจสอบพื้นที่บริเวณสองข้างทางสาย 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) บริเวณผาซ่อนแก้ว เนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่
ชุดปฏิบัติการที่ 2 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์จำนวน 104 นาย ตรวจสอบพื้นที่ภูตะแคง (ที่เคยมีปัญหาเตรียมการออกโฉนดและพื้นที่ใกล้เคียง) เนื้อที่ประมาณ 6,000 ไร่
ชุดปฏิบัติการที่ 3 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร พร้อมส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์จำนวน 52 นาย ตรวจสอบพื้นที่ด้านทิศเหนือถนนทางขึ้นภูทับเบิก เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่
พร้อมกับนำแบบสำรวจจำนวน 2 แผนให้ จนท.นำไปตรวจสอบที่ดินทำกินชาวบ้าน เทียบกับภาพถ่ายทางอากาศปี 45 เพื่อดูว่ามีการบุกรุกพื้นที่ก่อนหรือหลัง เก็บข้อมูลรายละเอียดถึงพื้นที่ทำกินจำนวนกี่ไร่ มีสภาพเป็นอย่างไร่ พร้อมกับถ่ายรูปเพื่อเป็นการยืนยัน
ทั้งนี้ หากพบตัวหรือตรวจร่องรอยเข้าทำประโยชน์ของชาวบ้านจะเข้าสู่การพิสูจน์สิทธิทันที โดยมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านพื้นที่ข้างเคียงยืนยันใน 7 หมู่บ้านเป้าหมาย หากไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ หรือเป็นการบุกรุกใหม่ก่อนปี 45 จะดำเนินการตรวจยึดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ต่อไป
นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 (พิษณุโลก) กล่าวว่า ประชากรที่เพิ่มขึ้น และย้ายถิ่นฐานจากภาคใต้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ด้วยการบุกรุกที่หลวง ทำให้เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ต้องจัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ในเขตลุ่มน้ำก้อ น้ำชุน จึงได้ปล่อยแถว จนท.อุทยานฯ ทั้งหมดเอกซเรย์พื้นที่ทั้ง 13,000 ไร่ หากมีการกระทำผิด ไม่ว่าแผ้วถางป่าหรือใช้เครื่องจักรบุกรุกในพื้นที่ ก็ให้ จนท.ดำเนินการจับกุมทันที
“ภายใน 7 วันนี้จะพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงของปัญหานายทุน และชาวบ้านที่บุกรุกทำกินในพื้นที่ป่าดังกล่าว เพื่อนำเสนอแผนให้มีทางออกเพื่อแก้ปัญหาในเชิงนโยบายต่อไป และทราบว่าท่านรองอธิบดีกรมอุทยานฯ จะลงพื้นที่ในสัปดาห์หน้าด้วย”