xs
xsm
sm
md
lg

ศาลสั่ง “หมอชาลี” ชดใช้เงินกว่า 7 ล้าน คดีดูดไขมันสาว 17 ตายคาเตียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกมล มุ่ยมา พ่อ น.ส.ศิริภรณ์ หรือน้องกุ้ง มุ่ยมา อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ ที่เสียชีวิตคาเตียงคนไข้ชาลีคลินิก ขณะเข้าใช้บริการดูดไขมัน เมื่อปี 45
เชียงใหม่ - ศาลพิพากษาให้ “หมอชาลี” ดูดไขมันสาว 17 จนตายคาเตียงในคลินิกตั้งแต่ปี 45 ให้จ่ายเงินชดใช้พ่อ-แม่คนไข้กว่า 7 ล้านบาท หลังฎีกายืนโทษจำคุก 4 ปี 3 เดือนมาแล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) ศาลจังหวัดเชียงใหม่อ่านคำพิพากษาคดีที่นายกมล-นางบังเอิญ มุ่ยมา พ่อและแม่ของ น.ส.ศิริภรณ์ หรือน้องกุ้ง มุ่ยมา อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ยื่นฟ้อง นพ.ชาลี กาญจนรักษ์ เจ้าของคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามชาลี เลขที่ 96/6 ถนนราชเชียงแสน ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ดูดไขมันจนทำให้น้องกุ้งเสียชีวิต เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 12,637,000 บาท

ศาลแพ่งพิพากษาให้ นพ.ชาลี จ่ายเงินแก่โจทก์ คือ นายกมล-นางบังเอิญ มุ่ยมา 7,435,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี

ทั้งนี้ นายกมลกล่าวว่ารู้สึกพึงพอใจกับผลการตัดสินของศาลแล้ว และคงจะไม่ฟ้องร้องเพิ่มเติมใดๆ อีกต่อไปแล้ว

สำหรับเหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2545 พ.ต.ต.ชัยดวงทิพย์ ธงเชื้อ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ในขณะนั้นรับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตที่ชาลีคลินิก จึงไปตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ศิริภรณ์ มุ่ยมา อายุ 17 ปี ในที่เกิดเหตุยังมีนายกมล และนางบังเอิญ มุ่ยมา เจ้าของร้านถ่ายรูปเอสโฟโต้ เลขที่ 90/3-4 ถนนราชเชียงแสน พ่อ และแม่ น.ส.ศิริภรณ์ และ นพ.ชาลีอยู่ด้วย

โดย น.ส.ศิริภรณ์เสียชีวิตในสภาพนอนเปลือยกาย มีผ้าคลุมร่างบนเตียงคนไข้ สภาพศพใบหน้า-ร่างกายเขียวช้ำ ขาและเข่าข้างขวามีรอยแผลดูดไขมัน ส่วนอื่นของร่างกายมีรอยผ่าตัดเป็นแผลยาว มีคราบเลือด-ไขมันติดอยู่ และพบอุปกรณ์การผ่าตัดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้น นพ.ชาลีตกเป็นจำเลยในข้อหากระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ บิดามารดาของ น.ส.ศิริภรณ์ยังได้ฟ้องทางแพ่ง นพ.ชาลี เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 13 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2547 ศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งจำคุก นพ.ชาลีเป็นเวลา 4 ปี 3 เดือน โดยไม่รอลงอาญา แต่ นพ.ชาลีได้ประกันตัวและต่อสู้ในศาลชั้นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 4 ปี 3 เดือน เพิ่มฐานความผิดใช้ยาหมดอายุ แต่ นพ.ชาลีไม่ยอมมาฟังคำพิพากษา จึงถูกออกหมายจับ ก่อนที่จะเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 และถูกคุมขัง

กระทั่งวันที่ 31 มกราคม 2556 ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาดำที่ 1703/2546 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.ชาลี โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก นพ.ชาลีเป็นเวลา 4 ปี 3 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น