ประจวบคีรีขันธ์ - ผบก.ประจวบฯ เปิดแถลงข่าวข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ กรณีกลุ่มชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันชุมนุมปิดถนนเพชรเกษมหลัก กม.ที่ 412-413 หน้าหน่วยบริการประชาชนตำบลทองมงคล เมื่อวันที่ 5-6 ก.ย.ที่ผ่านมา จนตำรวจ และฝ่ายปกครองต้องเข้าผลักดันผู้ชุมนุมเพื่อเปิดการจราจรกระทั่งได้รับบาดเจ็บทั้ง ตร. อส.และกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมหาดทอง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ ศุภเอม พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ นพแก้ว พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อม ผกก.จากสถานีตำรวจต่างๆ ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันชุมนุมเรียกร้องปิดกั้นการจราจรบนถนนเพชรเกษม หลัก กม.ที่ 412-413 หน้าหน่วยบริการประชาชนตำบลทองมงคล บ้านธรรมรัตน์ หมู่ที่ 5 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 5-6 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา จนทางตำรวจ และฝ่ายปกครองต้องเข้าผลักดันผู้ชุมนุมเพื่อเปิดการจราจร จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บทั้ง ตร. อส. และกลุ่มผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวได้มีการนำวิดีโอในช่วงวันเกิดเหตุมาเปิดให้สื่อมวลชนได้ชม รวมทั้งเสื้อผ้าที่ถูกน้ำยากัดยางที่กลุ่มผู้ชุมนุมกว้างใส่ และตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนั้นมาร่วมพูดคุยถึงเหตุการณ์ในวันเข้าผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุม รวมไปถึงตำรวจที่บาดเจ็บมาเปิดร่องรอยแผลที่ถูกน้ำยากัดยาง และร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย นอกจากนั้น ทางตำรวจยังได้นำน้ำยากัดยางมาราดใส่เสื้อผ้าตำรวจให้สื่อมวลชนได้ดูว่า จะทำให้เสื้อผ้าขาดเป็นริ้ว
พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวว่า มีตำรวจ และ อส.ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้รวม 56 นาย รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บบางส่วน รถยนต์ของทางราชการ และของเอกชนถูกทำลายเสียหาย 15 คัน มูลค่าความเสียหาย 970,000 บาท นอกจากนั้น ยังมีรถยนต์ของสื่อมวลชนโดนเผา ทุบได้รับความเสียหายมูลค่าความเสียหายกว่า 530,000 บาท ในส่วนของการติดตามสืบสวนสอบสวนผู้ที่ลงมือเผารถยนต์ และทุบทำลายขว้างปาสื่อมวลชนอยู่ระหว่างหาพยานหลักฐาน และต้องใช้เวลา
พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินคดีแบ่งเป็น 2 คดี ทั้งเบา และหนัก มีการจับกุมกลุ่มแกนนำ และผู้ร่วมชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงในวันเกิดเหตุ (5 ก.ย.56) 12 คน และได้ขออนุมัติศาลจังหวัดประจวบฯ ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 26 คน เข้ามอบตัวแล้ว 9 คน ที่เหลือยังจับกุมตัวไม่ได้ โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จราจร ร่วมกันกระทำการปิดกั้นทางหลวง หรือวางวัตถุที่แหลมที่มีคม หรือนำสิ่งใดมาวาง หรือวางบนทางหลวง หรือกระทำด้วยประการใดๆ บนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตราย หรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดเจ้าพนักงานให้เลิกแล้วไม่เลิก
และยังได้กล่าวอีกว่า การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นอีกในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ก็ขอให้ชุมนุมด้วยความสงบไม่ทำผิดกฎหมาย ที่ผ่านมา ตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรงตามที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้ใช้กระบองแต่อย่างใด ยืนยันว่าตำรวจ และ อส.ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวนั้นปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง
