น่าน - เฒ่าวัย 62 เลือดเดือดเดินส่งเพื่อนสุรากลับบ้านแต่เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกัน สู้ไม่ได้คว้าไม้สักท่อนฟาดเข้าเต็มใบหน้าหนุ่มเพื่อนสุราซมซานคลานฟุบบ้านเพื่อนนอนตายจมกองเลือด
วันนี้ (21 ต.ค.) พ.ต.ต.จักรพงษ์ วงค์ไชย สารวัตรสืบสวน สภ.ท่าวังผา พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชัย บังเมฆ พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน สภ.ท่าวังผา เข้าตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 6 บ้านวังผาง ม.2 ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่าน
หลังได้รับแจ้งจาก นายเสาร์ ใจทิศ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดน่าน และแพทย์เวรประจำ รพ.ท่าวังผา เข้าร่วมตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ตายคือ นายภูธร วงษ์คำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 บ้านแหนสอง ม.3 ต.ผาตอ อ.ท่าวังผา จ.น่าน นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนกระสอบใส่ซังข้าวโพดซึ่งอยู่บริเวณใต้บันไดทางขึ้นบ้าน โดยที่ใบหน้าถูกทุบตีด้วยของแข็งไม่มีคม ซึ่งแพทย์ ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-12 ชม.
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบปลีกไม้สัก ยาวประมาณ 50 ซม. มีเลือดติดอยู่ และอยู่ห่างจากศพประมาณ 5 เมตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โดยชุดสืบสวนได้เร่งสอบปากคำพยานจนสามารถจับกุมตัว นายตาล ไชยสาร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.2 ต.ผาทอง อ.ท่าวังผา จ.น่าน ซึ่งยอมรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่านายภูธร
นายเสาร์ ใจทิศ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และเป็นผู้พบศพเล่าว่า ผู้ตายเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านแหนสอง อยู่ห่างจากหมู่บ้านวังผาง ที่เกิดเหตุ ประมาณ 2-3 กม. โดยผู้ตายมักจะมาที่หมู่บ้านวังผางเป็นประจำเพื่อมาดื่มสุรากับเพื่อนสนิท
วันเกิดเหตุ นายภูธร ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาฝากจอดรถไว้ที่ใต้ถุนบ้านของนายเสาร์ เนื่องจากรู้จักกันเป็นอย่างดี และได้เดินไปร่วมวงสุราที่บ้านหลังหนึ่งเพื่อฉลองหลังการเลือกตั้ง ส.อบต.ภายในหมู่บ้าน โดยในวงสุรามีคนร่วมดื่มอยู่ประมาณ 20 คน จากนั้นตนก็ไปนอนเฝ้าสวนยางพารา และกลับมาพบว่านายภูธร ได้มานอนเสียชีวิตที่บ้านตนเอง
จากการสอบสวนนายตาล ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า นายภูธร มีอาการมึนเมาและขอตัวเดินกลับไปที่บ้านนายเสาร์ ซึ่งเพื่อนร่วมวงได้บอกให้ตนเดินไปส่งเพราะบ้านของตนอยู่ติดกับบ้านของนายเสาร์
ระหว่างเดินเท้ากลับบ้านกันนั้น ได้เกิดมีปากเสียงกับนายภูธร จนมาถึงบ้านของนายเสาร์ นายภูธร ได้ลงมือชกต่อยตนเองก่อน ทำให้เกิดความโมโห ประกอบกับมึนเมาขาดสติ ด้วยเหตุว่านายภูธร เป็นเด็กอายุน้อยกว่าแต่มาลบหลู่ จึงได้คว้าไม้สักปลีกที่วางอยู่ที่พื้นฟาดเข้าไปที่บริเวณใบหน้าของนายภูธร ประมาณ 3-4 ครั้ง จนแน่นิ่ง แล้วตนก็เดินกลับบ้านไป จนถูกจับกุมในที่สุด โดยยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน นำผู้ต้องหาชี้ในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
