กาญจนบุรี - รอง ผบช.ภ.7 และคณะลงพื้นที่สำรวจอาคาร นปพ.กาญจนบุรี หลังเกิดเพลิงไหม้ปริศนา พร้อมเตรียมส่งชุด สพฐ.ภ.7 ร่วมพิสูจน์พรุ่งนี้ ส่วนกระสุนปืนพร้อมอาวุธที่เก็บไว้ในอาคารเสียหายเรียบ ส่งมอบ ตชด.13 นำไปทำลาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (20 ต.ค.) พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก รอง ผบช.ภ.7 พร้อมทีมงานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางมาตรวจสอบอาคารที่ทำการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.กาญจนบุรี หลังจากเกิดเพลิงไหม้อาคาร เป็นเหตุทำให้ห้องเก็บคลังแสงของทางราชการที่ใช้ประจำหน่วย นปพ.เกิดปะทุระเบิดอย่างรุนแรง ส่วนอาคารได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดย พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ชุมพล เฉลิมวิบูลย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี หน่วยเก็บกู้ระเบิดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องนำตรวจสอบ
จากการตรวจสอบอาคาร พบมี 2 อาคารสร้างด้วยปูน ส่วนโครงสร้างด้วยไม้ หลังคามุงด้วยกระเบื้อง พบร่องรอยของการถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด และ 1 ใน 2 ห้องเป็นห้องเก็บอาวุธปืนเอชเค อาวุธปืนพกสั้น หัวระเบิดเอ็ม 79 และเครื่องกระสุนปืนเอ็ม 16 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บวัตถุหัวระเบิดชนิดต่างๆ ที่ถูกไฟไหม้เสียหาย มารวมกันไว้พื้นล่างด้านหน้าที่ทำการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทั้งหมดมีสภาพดำเป็นตอตะโก
สำหรับอาวุธปืนที่เสียหายประกอบด้วย อาวุธปืน ปลย.11 (เอชเค 33) จำนวน 12 กระบอก อาวุธปืน ปลก.14 (เอสเอ็น) จำนวน 8 กระบอก อาวุธปืน ปลย.เอ็ม 16 จำนวน 9 กระบอก เครื่องยิงหัวระเบิด ค.11 เอ็ม 79 จำนวน 6 กระบอก
ประเภทกระสุนปืน ประกอบด้วยกระสุนปืน กปล.ขนาด 5.56 มม. จำนวน 21,510 นัด กระสุนปืน กปพม.82 หัวกลม จำนวน 15,909 นัด กระสุนปืน กค.เอ็ม 79 ลูกจริง จำนวน 551 ลูก กระสุนปืน กค.11 เอ็ม 79 ลูกปลาย จำนวน 20 นัด กระสุนปืน กค.11 เอ็ม 79 ลูกฝึก จำนวน 20 นัด
ประเภทวัตถุระเบิด พลุสัญญาณสีเขียว จำนวน 12 ลูก พลุสัญญาณสีขาวจำนวน 6 ลูก พลุสัญญาณสีแดง จำนวน 21 ลูก พลุสัญญาณสีเหลือง จำนวน 21 ลูก พลุสัญญาณปืนปากกา จำนวน 3 ลูก แก๊สน้ำตา จำนวน 30 ลูก และกระสุนแก๊สน้ำตา ซี.เอ็น.40 มม. จำนวน 36 ลูก
พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยภายหลังว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าว พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภาค 7 ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งให้ตนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เบื้องต้นได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี ที่เป็นประโยชน์
ส่วนรายละเอียดที่แท้จริงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งพรุ่งนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 นครปฐม ที่มีความเชี่ยวชาญมาตรวจพิสูจน์ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่ง เชื่อได้ว่าจะสามารถค้นหาความจริงได้ในเร็ววันนี้ และถ้าหากตรวจพบว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในส่วนของอาวุธปืน และเครื่องกระสุนได้มอบหมายนให้เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า นำไปเก็บยังที่ปลอดภัย เพื่อรอการทำลายทิ้งทั้งหมด