ร้อยเอ็ด - เจ้าของรถเช่าโดนคนเช่าเชิดรถหนี ใช้ GPS ตรวจสอบพบในสถานที่รับจำนำรถผิดกฎหมาย แจ้งตำรวจนำหมายศาลไปยึดพบรถผิดกฎหมายไม่มีหลักฐานอีก 5 คัน แต่เมื่อนำหมายศาลไปขอค้นคนรับจำนำกลับหลบหนี แถมส่งตำรวจยศ " พ.ต.ท." ขอเคลียร์ แต่ชุดจับไม่สนยึดรถทั้งหมดไปตรวจสอบหลักฐาน
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.อภิรักษ์ ศรีหารักษา สารวัตรป้องกันและปราบปราม (สวป.) สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อม ด.ต.สุดแสนเสน่ห์ ชมพูบุตร รองหัวหน้าชุดขุนแผนปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ของ สภ.เมืองร้แยเอ็ด และชุดสายตรวจกว่า 10 นาย พร้อม น.ส.ณัฐมล สุขเมือง อายุ 36 ปี เจ้าของรถเช่าจากกรุงเทพฯ ซึ่งเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ นาวัลย์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ และขอนำหมายศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าไปขอตรวจค้นและยึดรถยนต์ เก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญร.9463 กทม. ซึ่งมีผู้เช่าไปตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดส่งรถคืนในวันที่ 15 กันยายน 2556 แต่เงียบหายไป ติดต่อกันไม่ได้ พร้อมกับเบี้ยวไม่จ่ายค่าเช่าและได้แจ้งความไว้ที่ สน.แห่งหนึ่งใน กทม. จากนั้นตนได้ตรวจสอบจากสัญญาณ GPS พบว่ารถจอดอยู่ที่บ้านเลขที่ 217 บ้านห้าแยกกกโพธิ์ ม.14 ต.เหนือเมือง จึงมาดูรถ มั่นใจว่าใช่
ต่อมาตนจึงได้เข้าแจ้งความพร้อมกับขอหมายศาลมาตรวจค้นและแสดงหลักฐานยึดรถคืน ด้วยการให้เจ้าของรถขับไปยัง สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อทำการตรวจสอบและส่งมอบคืนให้กับเจ้าของรถต่อไป
จากการนำหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นดังกล่าว นอกจากพบรถดังดังกล่าวที่หายไปแล้วยังพบรถที่จอดในบริเวณบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านเช่าชั่วคราวที่ผู้เช่าได้ไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้านั้นแล้ว ยังพบรถอีก 5 คน จอดภายในบริเวณบ้าน คือรถกระบะอีซูสุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน, รถกระบะมาสด้า บีทีสีขาว ไม่ติดแผ่นป้วยทะเบียน 1 คัน, รถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปร์อต สีดำ ทะเบียนกง. 8869 สกลนคร อีก 1 คัน
รวมเป็น 5 คัน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด ด้วยการใช้รถยกไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อตรวจสอบหลักกฐานและความเป็นมาของรถทั้ง 5 ค้นว่าได้มาโดยถูกกฎหมายหรือไปอย่างไรต่อไป
แต่ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการตรวจสอบและตรวจยึดรถอยู่นั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ "พ.ต.ท."นายหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดรถตามหมายศาล เพราะทำงานอยู่ในเมืองร้อยเอ็ด ใส่เสื้อยืดสีดำ พยายามเข้าไปขอเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกทั้ง สวป.และเรียกพนักงานสอบสวนเวรไปเคลียร์ด้วย โดยอ้างว่าตนเองเป็นคนอยู่บ้านหลังนี้และรถทุกคันมีคนที่รู้จักกันรับจำนำมาแล้วเอามาฝากไว้ที่บ้าน โดยยินดีจะคืนรถคันที่เจ้าของมาตามให้คืนไป แต่คันอื่นขอจอดไว้ที่เดิมเพื่อคุยกันกับผู้จำนำที่อยู่ จ.อุดรธานี เพื่อขอเงินคืนก่อนคืนรถให้เจ้าของผู้ครอบครองรถทีหลัง
แต่ สวป.พร้อมชุดจับกุมไม่ยินยอมและทำการใช้รถยกมายกและยึดรถทั้ง 5 ค้นที่เหลือไปจอดยัง สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อทำการตรวจสอบหลักฐานและติดตามเจ้าของรถมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ว่ารถทั้ง 5 คันมาจอดที่บ้านหลังดังกล่าวได้อย่างไร