สภ.คลองหลวง รับแจ้งเหตุรถกระบะชนรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนพหลโยธินขาออก ช่องทางคู่ขนานหลัก กม.ที่ 43+200 ต.คลองหนึ่ง ปทุมธานี สอบสวนพบผู้ตายไปกู้เงินมาสองหมื่นห้าพันบาทจากเพื่อนร่วมงานที่เป็นเจ้ามือหวยใต้ดิน แล้วไม่จ่ายดอกเบี้ย ส่งลูกพร้อมพรรคพวกมาดักรอก่อนซิ่งกระบะพุ่งชนดับ 1 เจ็บ 1
วันนี้ (19 ก.ย.) ร.ต.ท.เจษฏา พัวบัณฑิตกุล ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนพหลโยธินขาออก ช่องทางคู่ขนานหลัก กม.ที่ 43+200 ต.คลองหนึ่ง ก่อนถึงจุดกลับรถมิตซูบิชิเล็กน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมาสด้า สีดำ เลขทะเบียน ณอ 8182 กรุงเทพมหานคร เสียหลักตกคูน้ำริมทางด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันพบรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ เลขทะเบียน ขรฉ 502 สุพรรณบุรี ล้มอยู่ด้านหน้ารถพัง ใต้ท้องรถกระบะพบศพ น.ส.น้ำเพชร กันยา อายุ 38 ปี ผู้ขับขี่รถ จยย.ส่วนอีก 1 รายเป็นคนซ้อนท้าย บาดเจ็บสาหัส ขาหัก และแผลถลอกตามร่างกาย ทราบชื่อ น.ส.วัลลี ริดพิรัติ อายุ 27 ปี อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งนำส่ง รพ.นวนคร 1 ส่วนคนขับรถกระบะมาสด้า หลบหนีไป
ต่อมา นายขวัญ กันยา อายุ 31 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า พี่สาวเคยยืมเงินเพื่อนร่วมงานชื่อ นางสมพร ไม่ทราบนามสกุลมา 25,000 บาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.พี่สาวถูกหวยใต้ดิน 25,000 บาท จากนางสมพร เจ้ามือและเจ้าหนี้ พี่สาวจึงยกเงินที่ถูกหวยใช้หนี้ให้ และที่ไม่จ่ายดอก เพราะเห็นว่าเพิ่งยืมมาไม่นาน แต่ นางสมพร ไม่ยอม เพราะไม่ได้ดอกเบี้ยตามที่ตกลงคือร้อยละ 20 จึงเกิดปากเสียงกันขึ้นถึงขั้นลงไม้ลงมือ ก่อนที่จะเรียกตำรวจ สภ.คลองหลวง มาเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วเลิกรากันไป
อย่างไรก็ตามฝ่ายคู่กรณีข่มขู่จะทำร้าย จนช่วงเช้าที่ผ่านมา พี่สาวกำลังจะเดินทางไปทำงานกับญาติที่ได้รับบาดเจ็บ มาประสบอุบัติเหตุขณะขี่ย้อนศร ซึ่งญาติยืนยันกับตนว่าผู้ขับรถกระบะ คือบุตรชายของเจ้าหนี้
ด้าน นางจันทนา กันยา อายุ 35 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ร่ำไห้โฮ บอกว่า จากการสอบถาม น.ส.วัลลี ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ ที่พอให้การได้เปิดเผยว่า ขณะรถ จยย.กำลังขี่ย้อนศร เพื่อเข้าบริษัท เห็นรถคู่กรณีจอดรถอยู่ริมทาง ก่อนที่จะออกตัวอย่างแรงแล้วพุ่งชนรถ จยย.ที่ทั้งคู่ขับขี่มา อีกทั้งหลังเกิดเหตุ น้องสะใภ้ยังพบชายฉกรรจ์ 3 คน เดินลงมาจากรถก่อนที่จะขึ้นรถกระบะอีกคัน จำสีและหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ที่มาจอดเทียบข้างก่อนขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยทั้งหมดสวมชุดยูนิฟอร์มของบริษัทแห่งหนึ่งที่น้องสะใภ้ทำงานอยู่ และจดจำใบหน้าได้หมดทุกคน
ส่วน พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ ร.ต.ท.เจษฎา เรียกผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางกฎหมาย พร้อมทั้งได้ให้เช็กชื่อผู้ครอบครองรถยนต์คู่กรณีเพื่อเรียกเจ้าของรถมาสอบปากคำ หากไม่มาตามนัดจะออกหมายจับตามขั้นตอน ทั้งนี้ได้สั่งเร่งสอบปากคำผู้รอดชีวิตที่พอให้การได้เพื่อเป็นเบาะแสในการจับกุมตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป