กาญจนบุรี - 50 สาวงามเดินสายร่วมกิจกรรมวันที่ 2 ที่ปราสาทเมืองสิงห์ ช่องเขาขาด พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ ต่อด้วยไหว้สรีระ “หลวงพ่ออุตตมะ” พร้อมเยี่ยมชมสะพานไม้ ถ่ายภาพสะพานลูกบวบกลางแม่น้ำซองเรีย ล่องเรือชมโบสถ์ใต้น้ำ ย้อนกลับเยี่ยมชมพระตำหนักพระสังฆราช องค์ที่ 19 กาญจนบุรี
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (15 ต.ค.) เหล่าบรรดา 50 สาวงามผู้เข้าประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2013 พร้อมทีมงานเจ้าหน้าที่กองประกวด ได้เดินทางออกจากที่พักโรงแรมเฟลิกซ์ ริเวอร์แคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ไปร่วมกิจกรรมที่อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ หรือที่นักท่องเที่ยวนิยมเรียกว่า ปราสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่ที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมี นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค ร.อ.บุญฤทธิ์ ฉายสุวรรณ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ คณะเจ้าหน้าที่อำเภอไทรโยค ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และอบอุ่น
เจ้าหน้าที่กองประกวดได้แบ่งแยกสาวงามออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกร่วมกิจกรรมภายในอุทยานปราสาทเมืองสิงห์ โดยมี ร.อ.บุญฤทธิ์ ฉายสุวรรณ เป็นผู้บรรยายให้ความรู้แก่สาวงามทุกคนได้รับทราบถึงประวัติความเป็นมา สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นศาสนสถานโบราณ สร้างด้วยศิลปะขอม มีเพียงแห่งเดียวในภาคตะวันตกของประเทศไทย อายุกว่า 800 ปี ทั้งนี้ เหล่าสาวงามได้เดินเยี่ยมชมกำแพง และอาคารโบราณสถานที่มีอยู่
สำหรับสาวงามชุดที่ 2 ได้เดินทางไปช่องเขาขาด พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ ตั้งอยู่ภายในกองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 64-65 บนทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ ช่องเขาขาด พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ เป็นสถานที่จัดแสดงมินิเธียเตอร์ และรวบรวมข้อมูลภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ระหว่างการสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นอย่างเป็นระบบระเบียบ สวยงาม ภายในบริเวณมีเส้นทางเดินสำหรับศึกษาธรรมชาติทอดไปถึงช่องเขาขาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ ที่ญี่ปุ่นเกณฑ์เชลยศึกมาตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือเปล่าปราศจากเครื่องมือที่ทันสมัย ให้เป็นช่องสำหรับทางรถไฟ ปัจจุบัน ยังมีร่องรอยของทางรถไฟให้เห็นอยู่
นอกจากนี้ ทีมงานกองประกวดได้คัดเลือกสาวงามจำนวน 8 คน ไปขึ้นเฮลิปคอปเตอร์ ที่สนามบินกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า เพื่อเดินทางไปจัดกิจกรรมที่อำเภอสังขละบุรี ตามโปรแกรมที่ทางกองประกวดจัดไว้ โดยเดินทางไปถึงในเวลาประมาณ 11.30 น. มีนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผวจ.กาญจนบุรี นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนให้การต้อนรับ เมื่อเดินทางไปถึงอำเภอสังขละบุรี คณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่ด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า ซึ่งมีนักท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่ และชาวพม่ากว่า 300 คน ให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และสนุกสนาน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างห้อมล้อมบรรดาสาวงามเพื่อขอถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมที่บ้านพระเจดีย์สามองค์
คณะทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวชมศิลปะความสวยงามของเจดีย์พุทธคยา ศิลปะล้ำค่าที่มีชื่อเสียงของชาวอำเภอสังขละบุรี ที่อยู่ภายในวัดวังก์วิเวการาม จากนั้นนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ได้พาคณะทั้งหมดไปกราบสรีระของ พระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม พระเกจิชื่อดัง ที่บรรจุอยู่ในปราสาท 9 ยอด เพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง จากนั้นได้เดินทางไปที่หมู่บ้านชาวมอญ หรือบ้านวังกะ หมู่ 2 ต.หนองลู เพื่อไปเยี่ยมชมสภาพของสะพานไม้ (สะพานมอญ) หรือสะพานอุตมานุสรณ์ ที่ถูกกระแสน้ำพัดพังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พร้อมทั้งลงไปเดินที่สะพานลูกบวบ ที่พี่น้องชาวอำเภอสังขละบุรี สร้างขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย สามารถเดินข้ามผ่านไปมาหาสู่กันชั่วคราวได้
และทั้งหมดได้ลงเรือหางยาวล่องไปตามแม่น้ำซองกาเลีย เพื่อไปเยี่ยมชมโบสถ์หลวงพ่ออุตตมะที่จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวจะเรียกกันว่า โบสถ์ใต้บาดาล นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หากนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีแล้ว ทุกคนจะต้องล่องเรือไปเที่ยวชม และกราบไหว้เพื่อขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะโยนเหรียญเข้าไปในโบสถ์พร้อมอธิษฐาน โดยจะโยนเหรียญได้ไม่เกิน 3 ครั้ง หากโยนเข้าไปในโบลถ์ได้ก็จะสมหวังดังที่ขอพรไว้ แต่ถ้าหากโยนเหรียญไม่เข้าโบสถ์ทั้ง 3 ครั้ง พรที่ขอไว้ก็จะไม่สมหวัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างต้องการที่จะไปขอพรเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเวลาประมาณ 17.30 น. คณะสาวงามทั้ง 50 คน ได้มารวมตัวกันที่พระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ด้านหลังวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อเยี่ยมชมความสวยงานของพระตำหนัก ที่ประชาชนชาวไทยร่วมกันสร้างถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 จนกระทั่งเวลา 18.00 น.คณะทั้งหมดจึงเดินทางกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวร่วมกิจกรรมในวันที่ 16 ต.ค.ต่อไป
