กำแพงเพชร - กลุ่มผู้ใช้น้ำ 3 จังหวัด ทั้งกำแพงเพชร-พิจิตร-นครสวรรค์ โวยถูกมัดมือชก ไม่รู้กรมชลฯ ทำสัญญากับผู้รับเหมา ปิดฝายส่งน้ำ 60 วัน สร้างท่อระบายน้ำ ทำนาข้าวนับแสนไร่เสี่ยงแห้งตาย
รายงานข่าวจากจังหวัดกำแพงเพชรแจ้งว่า กลุ่มผู้ใช้น้ำ 3 จังหวัด คือ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ ประมาณ 300 คน ได้มารวมตัวกันที่ทำการฝายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (วังยาง) ต.วังยาง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร วานนี้ (14 ต.ค. 56) เพื่อกดดันให้หน่วยงานภาครัฐ เลื่อนโครงการพัฒนาระบบส่งน้ำในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดออกไปก่อน เนื่องจากชาวนาที่กำลังปลูกข้าวประมาณ 1 แสนไร่ จะได้รับผลกระทบจากการขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังเจริญเติมโต
นายเส กล่อมกำเนิด อายุ 52 ปี ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ใช้น้ำที่มารวมตัวกันครั้งนี้เป็นเกษตรกรชาวนาทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากได้ลงมือปลูกข้าวรอบใหม่ไปก่อนที่จะรู้ว่าจะมีการปิดน้ำฝายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (วังยาง) ในวันนี้ (15 ต.ค. 56) - 15 ธ.ค. 56 ซึ่งจะทำให้ข้าวที่ปลูกไว้ จะได้รับความเสียหายจากการขาดน้ำ
และที่สำคัญเกษตรกรที่มารวมตัวกันไม่ทราบว่า ได้มีการประชุมบันทึกความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำระหว่างกลุ่มผู้ใช้น้ำโครงการวังยาง-หนองขวัญ กับบริษัท เอสเทค ซิวิล แอนด็ คอนสตรัคชั่น จำกัด เมื่อ 27 ส.ค. 56 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างท่อระบายน้ำ และพัฒนาระบบส่งน้ำในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด จึงจะขอให้ทางหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง ได้เลื่อนระยะเวลาการก่อสร้างออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม-เมษายน 57 หรือรอให้เก็บเกี่ยวข้าวให้เสร็จก่อน
“เหมือนเราถูกมัดมือชก เพราะได้มีการลงบันทึกความร่วมมือไปล่วงหน้าหมดแล้ว โดยที่เราไม่รู้เรื่องเลย”
ด้านนายเทวัน หุตะเสวี นายอำเภอคลองขลุง, นายนฤพนธ์ คล้ายมณี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (วังยาง) พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ใช้น้ำ ว่ากรมชลประทานได้ทำบันทึกความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ ระหว่างกลุ่มผู้ใช้น้ำโครงการวังยาง-หนองขวัญ กับบริษัท เอสเทค ซิวิล แอนด็ คอนสตรัคชั่น จำกัด เพื่อทำการหยุดการส่งน้ำในวันนี้(15 ต.ค.) - 15 ธ.ค. 56 รวม 60 วัน ให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการก่อสร้าง ท่อระบายน้ำ ขนาด 5 ช่อง กว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร กลางคลองส่งน้ำสายหลักวังยาง และงานในโครงการพัฒนาระบบส่งน้ำในพื้นที่รอยต่อจังหวัด กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และได้มีการลงลายมือชื้อและประทับตราไว้แล้ว จึงไม่สามารถทำตามความประสงค์ของเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำได้
“ฝายส่งน้ำจำเป็นต้องปิด และเปิดตามระยะเวลาที่กำหนด”
ส่วนแนวทางแก้ไขเบื้องต้น เกษตรที่ได้รับผลกระทบ ควรขุดบ่อนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ทดแทนแม่น้ำสายหลักก่อน หรือหาแหล่งน้ำข้างเคียง ใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกไว้ ป้องกันผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหาย
ทางด้านเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำ หลังจากฝังคำชี้แจงส่วนหนึ่งยอมรับสภาพ อีกส่วนหนึ่งไม่ยอมรับ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงพากันสลายตัวเดินทางกลับไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
