ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานหอการค้าตะวันออก เผย 4 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี จันทบุรี ตราด และระยอง มีความพร้อมด้านกายภาพสู่การก้าวสู่ AEC ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่ปัญหาคือ การขาดความรู้ด้านภาษา และการอ่อนด้านการศึกษาของคนพื้นที่
นายปราโมทย์ ร่วมสุข ประธานหอการค้าภาคตะวันออก และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในอีก 2 ปีข้างหน้าว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้เตรียมความพร้อมด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวอย่างไร้ขอบเขตแล้ว
โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออก ที่ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ที่ขณะนี้ถือว่าพร้อมที่จะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากศักยภาพ และจุดขายที่แตกต่างกัน
ชลบุรี และระยอง ถือเป็นแหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นของประเทศ ส่วนจันทบุรี และตราด เป็นเมืองชายแดนที่ติดต่อกับกัมพูชา และยังเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
นอกจากนั้น ภาคตะวันออก ยังมีทั้งท่าเรือน้ำลึก และท่าเรือเพื่อการส่งออก ทั้งยังมีสนามบินพาณิชย์ และสนามบินโดยสาร ซึ่ง จ.จันทบุรี และตราด ถือเป็นเมืองหน้าด่านในการส่งสินค้าไปยังประเทศเวียดนาม และกัมพูชา รวมถึงมาเลเซีย และสิงคโปร์
“แต่ในวันนี้เราก็ยังต้องมองว่า ภูมิภาคตะวันออกขาดอะไรในการขนส่งสินค้า โดยที่เราไม่ได้มองในเรื่องเงินกู้ 2.2 ล้านล้านที่รัฐบาลจะนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ฯลฯ แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญกับภูมิภาคแห่งนี้ก็คือ การขนส่งสินค้าทางน้ำ หรือทางทะเล ซึ่ง จ.ตราด มีศักยภาพในการขนส่งทางน้ำ หรือทางทะเล เพียงแต่ยังไม่ถูกยกระดับให้ได้มาตรฐานเท่านั้น”
ทั้งนี้ โอกาสของ จ.ตราด คือ การเป็นเมืองท่าในการขนส่งสินค้าทางน้ำ ส่วนจันทบุรี และตราด จะเป็นฮับในการส่งสินค้าสินค้าออกไปยังประเทศกัมพูชา และเวียดนาม หรือประเทศจีน
“แต่ที่ยังเป็นจุดอ่อนก็คือ คน คนของเราไม่พร้อมทั้งด้านการเรียน และการใช้ภาษา โดยต้องเปิดโอกาสผู้ใช้แรงงานได้เรียนรู้ด้านภาษาเพื่อให้สามารถสื่อสารกับประชาชนในแต่ละประเทศได้ด้วย” นายปราโมทกล่าว
