ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษคาดภายใน 3 วันน้ำท่วมทุกชุมชนเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษจะเข้าสู่ภาวะปกติ เร่งฟื้นฟูจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือชาวบ้านหลังน้ำลด พร้อมดันโครงการแก้ท่วมซ้ำซากอย่างถาวร
วันนี้ (7 ต.ค.) นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมของ จ.ศรีสะเกษมีแนวโน้มไปในทางที่ดี โดยล่าสุดจากการวัดระดับน้ำลำห้วยสำราญที่สะพานขาว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ระดับน้ำเหลืออยู่ที่ 11.10 เมตร ล้นตลิ่ง 2.10 เมตร ลดลงวันละประมาณ 20 เซนติเมตร (ซม.) คาดว่าอีก 3 วัน ชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษน้ำจะแห้งหมด ประชาชนจะได้เข้าไปทำความสะอาดบ้านเรือนและอพยพกลับเข้าไปอยู่อาศัยที่เดิม
ส่วนประชาชนที่อพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษก็จะได้กลับเข้าไปอยู่บ้านภายใน 3 วัน ซึ่งขณะนี้ 15 ชุมชนเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษที่ประสบปัญหาน้ำท่วมประชาชนได้เข้าไปอยู่บ้านตัวเองได้แล้วประมาณ 7 ชุมชน และทางราชการได้นำอีเอ็มบอล น้ำหมัก ไปช่วยแก้ไขปัญหาบำบัดน้ำเน่าเสีย
ในส่วนการฟื้นฟูหลังน้ำลดนั้น ขณะนี้ได้สั่งการไปยังทุกอำเภอ ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าต้องเร่งสำรวจบ้านเรือน ทรัพย์สิน และข้าวปลานาหนองที่เสียหาย เมื่อสำรวจเสร็จจะเร่งนำเข้าที่ประชุมเพื่อจ่ายเงินชดเชยตามระเบียบโดยเร็วโดยไม่ต้องรอกัน ตำบลไหนสำรวจเสร็จเร็วชาวบ้านก็ได้เงินก่อน ในส่วนของบ้านเรือนที่เสียหายจะช่วยเหลือหลังละไม่เกิน 33,000 บาทตามความเสียหายที่แท้จริง ซึ่งทุกอำเภอ ทุกท้องถิ่นมีหน้าที่สำรวจโดยตรงอยู่แล้ว และนายอำเภอมีหน้าที่กำกับดูแล ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่
กรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันน้ำท่วมถาวรนั้น ได้เสนอโครงการไปยัง กบอ.แล้วเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้ชลประทานจังหวัดฯ นำเรื่องไปเสนอตามที่ได้เรียนเสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้แล้วว่า มาตรการของ จ.ศรีสะเกษจะนำมาเป็นระยะเร่งด่วนเลย โดยเฉพาะการขุดทางลัดของลำห้วยสำราญลงแม่น้ำมูลโดยเร็วประมาณ 3 จุด รวมถึงทางแยก ทางลัดต่างๆ จะทำทั้งหมดซึ่งได้เสนอไปแล้ว
“น้ำท่วมครั้งนี้บ้านผมซึ่งอยู่ในชุมชนหนองอุทัยก็โดนน้ำท่วมหนักเหมือนกัน จึงมีความเข้าใจและเห็นใจพี่น้องประชาชนมาก ขนาดผู้ว่าราชการจังหวัดยังเดือดร้อนเจอน้ำท่วม พี่น้องประชาชนจะขนาดไหน จะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอีกให้ได้” นายประทีปกล่าว
