กาญจนบุรี - กกพ.และ กฟภ.ร่วมมือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ยืดเวลาชำระค่าไฟให้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่น้ำท่วม
นายพิสิษฐ์ สุนทรีรัตน์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง กกพ.กับ กฟภ.เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมว่า จากปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นกว่า 20 จังหวัดในขณะนี้ พบว่า มีผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยกว่า 8 แสนครัวเรือน หรือประมาณ 2.8 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหลายหน่วยงานได้ให้การช่วยเหลือ และมีมาตรการบรรเทาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้านั้น
ในวันนี้ ทาง กกพ.และ กฟภ.ได้หารือร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในเรื่องกำหนดเวลาชำระค่าไฟฟ้า โดยในพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นเขตภัยน้ำท่วมนั้น ทาง กฟภ.จะขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า จากเดิมหากได้รับใบแจ้งหนี้แล้วต้องไปชำระภายใน 15 วัน ก็จะขยายระยะเวลาเพิ่มเติมให้อีกสูงสุดไม่เกิน 31 วัน รวมเป็นประมาณ 45 วัน ซึ่งก็จะลดภาระ และผลกระทบจากความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในขณะนี้ได้มาก
นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กฟภ.ยังพิจารณามาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ในเรื่องการขยับมิเตอร์ให้พ้นจากระดับน้ำ โดยจะขยับสูงถึง 2.30-2.70 เมตร เพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งจะมีการตัดกระแสไฟฟ้าหากระดับน้ำในพื้นที่มีแนวโน้มจะขึ้นสูงจนเกิดความไม่ปลอดภัยด้วย สำหรับประชาชนที่ต้องการแจ้งเหตุ หรือรับบริการช่วยเหลือในการตัดกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากปัญหาน้ำท่วม ก็สามารถแจ้งได้ตลอดเวลาที่เบอร์ 1129 โดย กฟภ.ก็เตรียมพร้อมที่จะให้บริการตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าว
นายประเทศ ศรีชมพู ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ว่า ในส่วนที่จะดำเนินการ กฟภ.จะมีแนวทางปฏิบัติใน 2 ลักษณะ คือ ในส่วนของผู้ใช้ไฟที่มีการส่งใบแจ้งหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระค่าไฟฟ้าแล้ว การไฟฟ้าในพื้นที่จะพิจารณาผ่อนผันระยะเวลาเบื้องต้นตามใบแจ้งหนี้ดังกล่าวออกไปได้อีกสูงสุดได้ถึง 31 วัน ตามสภาพพื้นที่นั้นๆ โดยหลังจากนั้นหากผู้ใช้ไฟฟ้ายังไม่สะดวกในการไปชำระค่าไฟฟ้าอันเนื่องมาจากการนี้ ก็สามารถร้องขอผ่อนผันออกไปได้อีก 15 วัน
ส่วนรายที่ไม่สามารถเข้าไปจดหน่วยไฟฟ้าได้ในช่วงน้ำท่วม ก็ให้ผ่อนผันกำหนดระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าในรอบเดือนนั้นออกไปจนกว่าจะสามารถเข้าไปจดหน่วยได้ในเดือนถัดไป และก็จะได้รับการขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าได้สูงสุดอีกไม่เกิน 31 วัน และตามหลักเกณฑ์นี้ หากระยะเวลาจดหน่วยดังกล่าวเกินกว่า 2 เดือน ก็จะมีการออกใบแจ้งหนี้โดยเฉลี่ยค่าไฟฟ้าออกเป็นรายเดือนตามจำนวนหน่วยที่ใช้จริง และหากพบว่ามีการใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 50 หน่วยต่อเดือน ก็จะได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามนโยบายรัฐบาลเช่นกัน
นายพิสิษฐ์ สุนทรีรัตน์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง กกพ.กับ กฟภ.เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมว่า จากปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นกว่า 20 จังหวัดในขณะนี้ พบว่า มีผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยกว่า 8 แสนครัวเรือน หรือประมาณ 2.8 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหลายหน่วยงานได้ให้การช่วยเหลือ และมีมาตรการบรรเทาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้านั้น
ในวันนี้ ทาง กกพ.และ กฟภ.ได้หารือร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในเรื่องกำหนดเวลาชำระค่าไฟฟ้า โดยในพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นเขตภัยน้ำท่วมนั้น ทาง กฟภ.จะขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า จากเดิมหากได้รับใบแจ้งหนี้แล้วต้องไปชำระภายใน 15 วัน ก็จะขยายระยะเวลาเพิ่มเติมให้อีกสูงสุดไม่เกิน 31 วัน รวมเป็นประมาณ 45 วัน ซึ่งก็จะลดภาระ และผลกระทบจากความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในขณะนี้ได้มาก
นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กฟภ.ยังพิจารณามาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ในเรื่องการขยับมิเตอร์ให้พ้นจากระดับน้ำ โดยจะขยับสูงถึง 2.30-2.70 เมตร เพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งจะมีการตัดกระแสไฟฟ้าหากระดับน้ำในพื้นที่มีแนวโน้มจะขึ้นสูงจนเกิดความไม่ปลอดภัยด้วย สำหรับประชาชนที่ต้องการแจ้งเหตุ หรือรับบริการช่วยเหลือในการตัดกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากปัญหาน้ำท่วม ก็สามารถแจ้งได้ตลอดเวลาที่เบอร์ 1129 โดย กฟภ.ก็เตรียมพร้อมที่จะให้บริการตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วมดังกล่าว
นายประเทศ ศรีชมพู ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ว่า ในส่วนที่จะดำเนินการ กฟภ.จะมีแนวทางปฏิบัติใน 2 ลักษณะ คือ ในส่วนของผู้ใช้ไฟที่มีการส่งใบแจ้งหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระค่าไฟฟ้าแล้ว การไฟฟ้าในพื้นที่จะพิจารณาผ่อนผันระยะเวลาเบื้องต้นตามใบแจ้งหนี้ดังกล่าวออกไปได้อีกสูงสุดได้ถึง 31 วัน ตามสภาพพื้นที่นั้นๆ โดยหลังจากนั้นหากผู้ใช้ไฟฟ้ายังไม่สะดวกในการไปชำระค่าไฟฟ้าอันเนื่องมาจากการนี้ ก็สามารถร้องขอผ่อนผันออกไปได้อีก 15 วัน
ส่วนรายที่ไม่สามารถเข้าไปจดหน่วยไฟฟ้าได้ในช่วงน้ำท่วม ก็ให้ผ่อนผันกำหนดระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าในรอบเดือนนั้นออกไปจนกว่าจะสามารถเข้าไปจดหน่วยได้ในเดือนถัดไป และก็จะได้รับการขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าได้สูงสุดอีกไม่เกิน 31 วัน และตามหลักเกณฑ์นี้ หากระยะเวลาจดหน่วยดังกล่าวเกินกว่า 2 เดือน ก็จะมีการออกใบแจ้งหนี้โดยเฉลี่ยค่าไฟฟ้าออกเป็นรายเดือนตามจำนวนหน่วยที่ใช้จริง และหากพบว่ามีการใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 50 หน่วยต่อเดือน ก็จะได้รับสิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามนโยบายรัฐบาลเช่นกัน
