เชียงราย - แกนนำเสื้อแดง นปช.เชียงราย โผล่นำม็อบชาวไร่ข้าวโพด ยื่นเงื่อนไขเพิ่มราคา-ขยายเวลาขึ้นทะเบียนแถมให้รัฐจ่ายชดเชยต้นทุนการผลิตให้อีก 500 บาท/ไร่ รายละไม่เกิน 15 ไร่
วันนี้ (30 ก.ย.) ชาวไร่ข้าวโพดใน จ.เชียงราย ประมาณ 150 คน รวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลารแทรกแซงราคาข้าวโพด โดยมีการขึ้นป้ายที่หน้าศาลากลางจังหวัดว่า “ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำเกษตรกรย่ำแย่” โดยการชุมนุมครั้งนี้นอกจากจะมีนายณรงค์ เขื่อนคำแสน จาก อ.แม่สาย, นายธีธวัช คำเงิน จาก อ.แม่จัน, นายแปง ผาคำ จาก อ.แม่ลาว, นายพงษ์ชาย หมื่อแล จาก อ.แม่ฟ้าหลวง, นายสมนึก วิงสอน จาก อ.เทิง, นายเกษม นันชัย จาก อ.เวียงแก่น นายวิรัตน์ พรหมสอน ประธานเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน จ.เชียงราย เข้าร่วมแล้ว ยังมีแกนนำเสื้อแดงมาร่วมด้วย คือ นายสมควร สุต๊ะวงศ์ นายก อบต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ประธานกลุ่ม นปช.เชียงราย 52, นายจิระโชติ อุ่นนะ นายชัยธวัช สิทธิสม แกนนำจากกลุ่มเดียวกัน
โดยกลุ่มผู้ปลูกข้าวโพดได้มีหนังสือเรียกร้องว่าหลังการชุมนุมเรียกร้องเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ที่ขอให้รัฐบาลแทรกแซงราคาข้าวโพดปี 2556-2557 และขอให้ผู้ที่ไม่มีเอกสารสิทธิแต่เคยผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรปี 2552-2553 เข้าร่วมโครงการแทรกแซงราคาได้ และขอให้มีการรับซื้อตามมติ ครม. หรือชดเชยเงินให้เกษตรกรในราคาความชื้นไม่เกิน 14.5% กิโลกรัมละ 9 บาท และความชื้นไม่เกิน 30% ราคา 7 บาท
ขณะที่กลุ่ม นปช.52 ออกแถลงการณ์สรุปว่า กลุ่มฯ เป็นองค์กรเคลื่อนไหวภาคประชาชน ที่นอกจากจะเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยแล้วยังส่งเสริมความอยู่ดีกินดีของประชาชน และกรณี ครม.มีมติเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าแทรกแซงราคาตามราคาข้อเรียกร้องนั้น ปรากฏว่าผ่านมากว่า 1 เดือนยังไม่พบการดำเนินการใดๆ จึงเกิดความเสียหายแก่เกษตรกรเป็นรายวัน เฉพาะใน จ.เชียงราย คิดเป็นความเสียหายวันละหลายล้านบาท
นปช.เชียงราย 52 จึงขอให้รัฐบาลขยายเวลาการลงทะเบียนให้เกษตรกรจากเดิมกำหนดถึงวันที่ 30 กันยายน ไปเป็นวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และให้ทบทวนเงื่อนไขเรื่องเอกสารสิทธิที่ดิน เพื่อให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดจริงได้ประโยชน์ รวมทั้งให้รัฐชดเชยต้นทุนให้เกษตรกรไร่ละ 500 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ กรณีขายข้าวโพดล่วงหน้าไปแล้ว เพราะความล่าช้าในการดำเนินงาน
และกรณีมีการแทรกแซงราคาข้าวโพดที่มีความชื้นไม่เกิน 30% กิโลกรัมละ 7 บาทนั้น ขอให้เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 8.50 บาท และให้ขยายระยะเวลาแทรกแซงไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2557 รวมทั้งให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการทุกระดับ เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพด้วย
ต่อมา นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย รับเรื่องจากชาวบ้านโดยเชิญแกนนำร่วมหารือภายในห้องประชุมบนศาลากลางจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดรับปากว่าจะให้สำนักงานเกษตรจังหวัดแจ้งไปยังทุกอำเภอให้รับลงทะเบียนเกษตรกรทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีเอกสารสิทธิที่ดินที่ปลูกข้าวโพด กลุ่มที่มีรายชื่อเมื่อฤดูกาลปี 2552-2553 และกลุ่มที่ไม่มีเอกสารสิทธิ เพราะบางกลุ่มเพิ่งจะปลูกในที่ดินผืนใหม่ แต่ไม่ได้อยู่ในโครงการแทรกแซงราคาเมื่อปี 2552-2553
ส่วนกรณีเกษตรกรของค่าชดเชยไร่ละ 500 บาท เนื่องจากได้ขายผลผลิตไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น ทางจังหวัดขอนำไปพิจารณาในรายละเอียดว่ากฎหมายเปิดช่องให้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องทั้งหมดจะต้องนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
