xs
xsm
sm
md
lg

ร้านทองแปดริ้วอ่วมเจอขบวนการมิจฉาชีพแอบนำทองคำเก๊มาหลอกจำนำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร้านทองแปดริ้วอ่วม เจอขบวนการมิจฉาชีพแอบนำทองคำเก๊  มาหลอกจำนำ และสามารถจับกุมตัวไว้ได้
ฉะเชิงเทรา - ร้านทองเมืองแปดริ้วอ่วม หลังเจอขบวนการมิจฉาชีพแอบทยอยนำทองคำเก๊ยัดไส้เงินมาหลอกจำนำ เผย 1 เดือนบางร้านมากถึง 5 ครั้ง สูญเงินนับแสนบาท ล่าสุด ตำรวจจับตัวคนร้าย 1 ราย โดยสารภาพเพราะความจำเป็นทางครอบครัว และสภาพทางเศรษฐกิจ

วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางจุฬาลักษณ์ กาญจนกิจเจริญ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/113 ม.18 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของร้านค้าทองเยาวราช (ตลาด 16) ว่า ทางร้านได้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำทองคำปลอมเข้ามาหลอกขายฝาก (จำนำ) ไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมานั้น ถูกหลอกมาแล้วถึง 5 ครั้ง คือ ในวันที่ 6 ก.ย. 7 ก.ย. 14 ก.ย. 24 ก.ย. ก่อนที่จะมาตรวจพบว่าเป็นทองคำยัดไส้เงินในวันที่ 25 ก.ย.56 ที่ผ่านมา จนต้องสูญเสียเงินไปแล้วนับแสนบาท

เชื่อว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มของพวกช่างทองคำที่อาจเปลี่ยนอาชีพมาหากินด้วยวิธีลัดเป็นมิจฉาชีพเสียเอง เนื่องจากสามารถทำเนื้อทองด้านนอก และน้ำหนักได้อย่างใกล้เคียงกับทองคำจริงๆ มาก ซึ่งหากไม่ตรวจสอบโดยละเอียดก็จะไม่ทราบเลยว่าทองคำที่ได้รับขายฝากมานั้นเป็นทองคำปลอม เนื่องจากผู้ที่ทำทองปลอมขึ้นมานั้นได้ใช้สร้อยเงินซึ่งในแต่ละเส้นจะมีน้ำหนักที่ใกล้เคียง และตรงกันกับสร้อยคอทองคำแท้ๆ มาก จากนั้นก็จะนำไปชุบเนื้อทองที่ผิวด้านนอกให้หนามากกว่าปกติของการชุบทองทั่วไปก่อนที่จะนำมาหลอกขายให้แก่ทางร้านทอง

หากทางร้านทองไม่ทำการตรวจสอบดูให้ดีอย่างละเอียดแล้ว ก็จะไม่รู้เลยว่าทองคำที่รับการขายฝากมานั้นเป็นทองคำปลอม โดยที่มีเนื้อเป็นทองแค่เพียงเปลือกด้านนอก ส่วนด้านในนั้นเป็นเนื้อเงินธรรมดาทั่วไป และหากใช้วิธีการตรวจสอบเบื้องต้นแบบง่ายที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ การเป่าไฟก็จะยังคงสภาพเห็นที่ด้านนอกเป็นทองคำอยู่ และเมื่อนำมาฝนแบบการตรวจสอบธรรมดาทั่วไปก็ยังคงเห็นเป็นทองคำอยู่ แต่ถ้าหากจะตรวจสอบดูกันให้แน่ชัดแล้วจะต้องใช้ตะไบแทงเนื้อทองให้ลึกเข้าไปถึงด้านในก็จะเห็นเนื้อด้านในของสร้อยคอที่แท้จริงที่ได้รับขายฝากไว้ว่าเป็นทองคำแท้หรือไม่ แต่ก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อทองคำแท้ที่ดีๆ จะกลายเป็นสร้อยทองคำที่ชำรุดได้หากสร้อยทองนั้นเป็นของจริง

นางจุฬาลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับร้านค้าทองของตนนั้นในเดือนนี้ถูกขบวนการขายทองปลอมยัดไส้เงินนำเข้ามาขายฝากไว้แล้ว จำนวน 5 ครั้ง ซึ่งเป็นสร้อยคอน้ำหนัก 1 บาท 2 เส้น หนัก 2 บาท 3 เส้น โดยทั้ง 5 เส้น นั้นเป็นลายสี่เสาทั้งสิ้น รวมความเสียหายมากกว่า 127,000 บาท และยังไม่ได้นำทองคำส่วนที่เหลือจากที่ได้รับการขายฝากเอาไว้ตั้งแต่ในเดือนก่อนๆ ออกมาตรวจสอบอีกเป็นจำนวนมากทั้งหมดว่าถูกแก๊งทองปลอมยัดไส้ได้นำมาขายฝากไว้ให้ทั้งหมดจำนวนเท่าใด เนื่องจากในการเข้ามาแต่ละครั้งมักจะเปลี่ยนหน้ากันมา

ขณะเดียวกัน หลังสอบถามข้อมูลจากเพื่อนร้านทองด้วยกัน (แม่ทองสวย) ที่ตั้งอยู่ข้างเคียงด้านหน้าตลาดยังพบว่า ต่างก็เคยถูกหลอกนำทองคำปลอมเข้ามาขายฝากไว้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในเดือนนี้มีจำนวน 2 ครั้ง เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น และแหวนทองคำทรงมอญหัวหยก หนัก 1 บาท 1 วง โดยที่ร้านค้าทองบางรายก็ยังไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยข้อมูลเพราะเกรงว่าจะเสียชื่อเสียงของทางร้าน

การระบาดของทองคำเก๊ยัดไส้เงินในครั้งนี้ ถือว่ากลุ่มมิจฉาชีพกำลังเริ่มจะวนนำกลับเข้ามาหลอกขายในพื้นที่อีกครั้ง ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ที่เคยพบการระบาดมาแล้วเมื่อช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งทางร้านก็เคยได้รับความเสียหายมาแล้วเป็นเงินนับแสนบาทเช่นกัน

แต่สำหรับในครั้งนี้ ทางร้านได้ทำการควบคุมตัว นายศิริศักดิ์ ศิลาโรจน์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/128 ม.9 ต.บางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ขณะนำทองคำปลอมมาขายให้แก่ทางร้าน และได้พยายามที่จะหลบหนี แต่หลานชายคือ นายอดิศักดิ์ กาญจนกิจเจริญ อายุ 29 ปี สามารถวิ่งไล่ตาม และร้องเรียกให้ชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่จะแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนฉิมพลี เข้ามาทำการจับกุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นายศิริศักดิ์ ผู้ต้องหา กล่าวยอมรับสารภาพว่า ทองคำที่นำมาหลอกขายให้แก่ทางร้านทองนั้นเป็นทองคำเก๊จริงๆ ที่ตนเองได้ไปรับมาจากภายในบ่อนแห่งหนึ่งย่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อนำมาหลอกขายต่อให้แก่ทางร้านค้าทอง เพราะเนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน โดยบุตรสาวได้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดไส้ติ่ง ขณะที่รถแท็กซี่ที่ตนขอเช่าซื้อกับทางอู่ไว้ก็ขาดส่งค่างวด และกำลังจะถูกทางอู่ตามยึดเพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงไม่ค่อยมีคนเรียกใช้บริการ ประกอบกับรถของตนเองนั้นเป็นรถเก่าจึงไม่ค่อยได้ลูกค้า

ขณะที่ภรรยานั้นก็ทำงานเป็นลูกจ้างในมูลนิธิเด็กแห่งหนึ่ง ย่านพุทธมณฑล และได้รับเงินเดือนค่าจ้างต่ำมากเพียงเดือนละ 6 พันบาทเศษเท่านั้น ขณะที่ครอบครัวนั้นมีบุตรสาว จำนวน 2 คน กำลังอยู่ในวัยเรียน อายุ 8 ขวบ และ 9 ขวบ ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายทุกวันอย่างน้อยวันละ 500 บาทเป็นอย่างต่ำ ส่วนการตัดสินใจหันมาใช้วิธีการหาเงินแบบผิดกฎหมายในครั้งนี้ ตนเพิ่งทำเป็นครั้งที่ 2 จากครั้งแรกนั้นเคยทำมาแล้วเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนที่ผ่านมา แต่หลังจากถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ก็ขอยอมรับว่าเข็ดแล้ว และจะขอสาบานว่าจะไม่กลับมาทำอีก

นายศิริศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับทองคำยัดไส้เงินนั้นตนได้ไปรับต่อมาอีกทอดหนึ่งจากภายในบ่อนการพนันแห่งหนึ่งย่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมี นายปู ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง อายุประมาณ 25 ปี ลักษณะรูปร่างเตี้ยผิวคล้ำเป็นคนขับรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีเทาดำ สภาพเก่า (รุ่นโดเรมอน) ไม่ทราบทะเบียนมาส่งให้ลงมือก่อเหตุ และได้ไหวตัวทันขับรถหลบหนีไปก่อน ขณะที่ตนถูกชาวบ้านไล่จับกุม

ด้าน ร.ต.ท.รัชวุฒิ ทรัพย์ศิริ พนักงานสอบสวน สภ.ดอนฉิมพลี กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฉ้อโกงทรัพย์ ตาม ป.อาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หากรับสารภาพก็จะเหลือโทษเพียงกึ่งหนึ่ง ซึ่งโทษทางคดีนั้นอาจไม่หนักมากนัก เมื่อเทียบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทางผู้ประกอบการร้านทอง จึงขอแนะนำว่าการที่จะรับขายฝากทองคำไว้นั้นก็ควรที่จะขอดูบัตรประจำตัวประชาชน หรือถ่ายสำเนาเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกัน ทางร้านทองเองก็ควรที่จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าอยู่ประจำร้านเพื่อเป็นการป้องกันเหตุให้คนร้ายเกรงกลัวไว้ก่อนอีกทางหนึ่ง
ลักษณะทองเก๊ที่ขบวนคนร้ายนำมาจำนำ
กำลังโหลดความคิดเห็น