ปราจีนบุรี - สถานการณ์น้ำปราจีนบุรีวิกฤตรอบ 2 หลังน้ำป่าจากจังหวัดสระแก้ว ไหลท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ด้าน หน.ปภ.ปราจีนบรี สรุปน้ำท่วมในพื้นที่กบินทร์บุรี และศรีมหโพธิ ยังหนัก แม่น้ำปราจีนสูงสุด 11.41 ม.
วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมเขตบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ล่าสุด เมื่อเช้านี้มวลน้ำจากจังหวัดสระแก้ว ยังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลตำบลอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 60 ซม.ทำให้ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมอยู่แล้วต้องขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำขึ้นที่สูงอีกครั้งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยต้องหนีน้ำมาอยู่รวมกันบริเวณที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม
ส่วนทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ น้ำท่วมทางเป็นช่วงๆ รถไฟยังคงวิ่งได้ตามปกติแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ทางชาวบ้านในตำบลย่านรี ม.1, ม.2, ม.3, ม.5 และ ม.6 เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมเส้นทางสัญจรไปมา และระดับน้ำได้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนท่วมถนนตลอดเส้นทางสัญจร ขณะนี้รถเล็กวิ่งไม่ได้แล้ว บางหมูน้ำประปาใช้ไม่ได้ชาวบ้านติดเกาะ โดยเฉพาะ ม.2 และ ม.5 บ้านย่านรี ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้
ล่าสุด แม่น้ำปราจีนบุรีเช้านี้อยู่ที่ 4.40 ม. (ตลิ่ง 4.13) ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทางกบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกกระจายร้อยละ 60 ของพื้นที่ และน้ำจากสระแก้วไหลลงมาเสริมในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี
ด้าน น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า จากที่ฝนตกลงมา น้ำจาก อ.นาดี ที่ไหลผ่านแควหนุมาน ลงสมทบกับแควพระปรงที่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ทำให้ระดับน้ำที่ล้นตลิ่ง ทำให้น้ำกลับมาท่วมสูงอีกครั้งเป็นรอบ 2 รวมถึงพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ พื้นที่รับน้ำต่อเนื่องกัน
“ผลกระทบจากน้ำท่วมในขณะนี้มีประชาชนเดือดร้อนรวม 19,179 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมรวมกว่า 42,428 ไร่ ถนนรวม 116 สาย โรงเรียนถูกน้ำท่วม รวม 16 แห่ง วัดรวม 31 แห่งสัตว์เลี้ยง 12,379 ตัว มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 1 คน
นายชาญชัย อตมศิริกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ปราจีนบุรี ล่าสุดว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ยังคงอยู่ในระดับวิกฤติ ที่แม่น้ำปราจีนบุรี วัดสูงสุดที่ 11.41 เมตร โดยเฉพาะที่ อ.กบินทร์บุรี มีระดับน้ำสูงขึ้น 25 ซม. และ อ.ศรีมหาโพธิ เพิ่มขึ้นอีก 20 ซม. เช่นกัน และไหลเข้าท่วมบริเวณภายในตลาดท่าประชุม ส่งผลให้บรรดาร้านค้าต่างๆ ต้องเก็บสินค้าขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายบางส่วนออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันความเสียหาย ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมีการตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งนำเรือและรถบรรทุกยกสูง เข้าไปบรรเทาทุกข์ประชาชน ขณะเดียวกัน ก็มีการแจกจ่ายยาเพื่อดูแลป้องกันโรคที่อาจมากับน้ำท่วม