นครพนม - สุดรันทด! วอนช่วยหลวงตาวัย 71 ปีไร้ญาติ อาพาตอัมพฤกษ์แผลกดทับถูกทอดทิ้ง นอนทรมานนานร่วมปีไร้คนดูแล วอนรัฐ ผู้ใจบุญช่วยเหลือ
วันนี้ (26 ก.ย.) นายเกลียว จันทเพชร อายุ 66 ปี คณะกรรมการวัดโพธิ์ชัย บ้านหนองบ่อ ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมด้วยนายอาคม วงษ์แสนชัย อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านหนองบ่อ ต.หนองบ่อ นายธีระวุฒิ หาญคำอุ้ย อายุ 37 ปี และตัวแทนชาวบ้านออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องและผู้ใจบุญช่วยเหลือพระจอมคุณ เชื้อดวงผุย อายุ 71 ปี พระลูกวัดโพธิ์ชัย
หลังพบถูกทอดทิ้งนอนอาพาตเป็นอัมพฤกษ์เกิดแผลกดทับติดเชื้ออยู่ภายในวัดมานานนับปี แต่ไม่มีญาติและลูกหลานไปดูแล เนื่องจากพระจอมคุณไม่มีญาติ มีเพียงชาวบ้านที่สงสาร รวมถึงคณะกรรมการวัดคอยไปดูแล พาไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก แต่พักหลังประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงค่ายารักษา และอุปกรณ์ในการดูแลทำแผล
โดยหลวงตาไม่สามารถเดินไปมาได้ทำให้นอนอยู่กับที่จนเกิดแผลกดทับติดเชื้อ เพราะอาพาตเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้ายเดินไม่ได้ พูดไม่ได้ มีเพียงชาวบ้านนำอาหารมาถวายประทังชีวิต เพราะในวัดมีเพียงพระ 3 รูป แต่ไม่ค่อยได้อยู่ไปปฏิบัติธรรมกิจสงฆ์ที่วัดอื่น ทำให้หลวงตาต้องอยู่ลำพังไร้คนดูแล จนชาวบ้านที่พบเห็นทนไม่ไหวจึงออกมาเรียกร้องวิงวอนให้ผู้ใจบุญหาทางช่วยเหลือ
ทั้งนี้ สามารถติดต่อช่วยเหลือได้ที่ โทร. 08-6226-1706 และสามารถบริจาคได้ที่บัญชีวัดโพธิ์ชัย บ้านหนองบ่อ 4210249289 ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.นาแก
สำหรับพระจอมคุณ เชื้อดวงผุย อายุ 71 ปี พระลูกวัดโพธิ์ชัย บ้านหนองบ่อ เดิมมีภูมิลำเนาเป็นคนในหมู่บ้าน แต่เดินทางออกจากหมู่บ้านไปหลายสิบปี จนกระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาหลวงตาได้กลับมาบ้านเกิด แต่ญาติพี่น้องได้ล้มหายตายจากไปหมดเพราะไม่มีการติดต่อกันเลย ชาวบ้านจึงให้มาบวชเป็นพระดูแลรักษาวัดในหมู่บ้าน อาศัยบิณฑบาตเลี้ยงชีวิตมานานนับ 10 ปี
จนกระทั่งเมื่อประมาณปีที่ผ่านมาหลวงตาได้อาพาตเป็นอัมพฤกษ์ ทำให้ร่างกายทรุด ไม่สามารถเดินไปมาได้ ร่างกายซีกซ้ายขยับไม่ได้ นอนพักในใต้ถุนศาลาวัดมานานร่วมปี มีเพียงชาวบ้านที่สงสารแวะนำอาหารมาถวายและดูแลบ้างเป็นครั้งคราวตามสภาพ เนื่องจากพระในวัดมีน้อยแค่ 3 รูป แต่ไม่ค่อยอยู่ไปปฏิบัติธรรมต่างวัด ทำให้ไม่มีใครคอยดูแลหลวงตา
ล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมาอาการทรุดหนักเป็นแผลกดทับติดเชื้อ ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ อปพร.จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแกจนอาการดีขึ้น
แต่มีปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาล และไร้ญาติ ทางโรงพยาบาลจึงให้กลับมาอยู่วัด ตามสภาพ แต่ขาดคนดูแลใกล้ชิด มีเพียงชาวบ้านที่คอยมาถวายอาหารดูแลอาการอาพาตตามที่ทำได้ ทำให้ทุกวันอาการทรุดลง ทั้งไม่มีเงินค่ายารักษาโรค รวมถึงอุปกรณ์ทำแผล ต้องสวมแพมเพิร์สให้ขับถ่ายเหมือนเด็กตลอดเวลา มีรายได้เพียงเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาทจาก อบต.
ชาวบ้านจึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางดูแลช่วยเหลือ รวมถึงผู้ใจบุญช่วยบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ดีกว่าให้อยู่ลำพังอย่างน่าเวทนา
