ศาลปกครองยกฟ้อง กฟผ.กรณีกลุ่มอนุรักษ์ฯ ฟ้องพาดสายส่งไฟฟ้าฯ มิชอบด้วย กม.

อุดรธานี - ศาลปกครองพิพากษายกฟ้อง กฟผ. กรณีกลุ่มอนุรักษ์ฯ ยื่นฟ้องการไฟฟ้ากำหนดเขตสายส่งไฟฟ้าไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ พาดผ่านที่ดินของกลุ่มฯ เป็นประกาศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขาดการมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 ด้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ลั่นสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 301 ศาลปกครองอุดรธานี นายชัยโรจน์ นิติ ผู้พิพากษา ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีดำที่ 92/2554 กับคดีหมายเลขดำที่ 116/2554 โดยมีนายสุรพล ยศกุล พร้อมพวก 37 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกับพวก 3 คน โดยมีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อุดรธานี นำโดยนางมณี บุญรอด กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ฯ, ที่ปรึกษากลุ่ม คชส. และ น.ส.จริงจัง นะแส ทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษาอย่างพร้อมเพรียง ขาดแต่เพียงตัวแทน กฟผ.ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้เข้าร่วมรับฟัง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกลุ่มชาวบ้าน ต.หนองไผ่ อ.เมือง และ ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ในนาม คณะกรรมการชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง (คชส.) จำนวน 37 ราย ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอนแก่น ตั้งแต่ ต.ค. 2552

ทั้งนี้ เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยเพิกถอนการออกประกาศการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำหนดเขตเดินสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลโวลต์ พาดผ่านที่ดินของกลุ่มฯ เพราะเป็นการประกาศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขาดการมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 ซึ่งวันนี้ศาลปกครองขอนแก่นได้ โอนเลขที่คดีมายังศาลปกครองอุดรธานี ศาลปกครองอุดรธานีจึงนัดฟังคำพิพากษาวันนี้

สรุปศาลปกครองเห็นว่า จากประเด็นที่โจทก์ยืนฟ้องว่าประกาศการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เรื่อง กำหนดเขตเดินสายส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ น้ำพอง 2-อุดรธานี 3 ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 ในเขตพื้นที่ตำบลหนองไผ่ อำเมืองอุดรธานี และตำบลเสอเพลอ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นประกาศที่ไม่ชอบชอบด้วยกฎหมาย

ประเด็นที่มติของผู้ถูกฟ้องที่ได้มีคำวินิจฉัย อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีซึ่งได้แจ้งหนังสือตามหนังสือ ลงวันที่ 18 เมษายน 2551 หนังสือลงวันที่ 20 และหนังสือลงวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีมติยกฟ้อง

ด้านนางมณี บุญรอด กรรมการกลุ่มอนุรักษ์อุดรธานี กล่าวภายหลังจากออกจากห้องพิจาณาว่า จากนี้ต่อไปทางกลุ่มจะยื่นในชั้นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองต่อไป โดยหลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อชี้แจ้งให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบให้เข้าใจกับคำพิพากษา และร่วมหาแนวทางการต่อสู้ต่อไป