กฟผ.เผยความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีนี้ขยายตัวเพียง 1.8% จากที่คาดว่าจะขยายตัว 5% เหตุจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว แถมฝนตกเร็ว
นายจรรยงค์ วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ (พีก) ในปีนี้อยู่ที่ 26,598 เมกะวัตต์เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ขยายตัวเพียง 1.8% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4-5% หรือคิดเป็นความต้องการ 27,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวและปีนี้ฝนตกเร็ว แต่คาดว่าปีหน้าพีกจะยังคงขยายตัว 4-5% โดยความต้องการไฟฟ้าภาพรวม กระทรวงพลังงานจะนำไปปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) ต่อไป
ส่วนการป้องกันปัญหาไฟฟ้าดับในภาคใต้ แนวทางที่สำคัญ ได้แก่ โครงการก่อสร้างสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการรองรับโครงการสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (อาเซียนกริด) ด้วย นอกจากนี้จะต้องทบทวนแผนป้องกันปัญหาไฟฟ้าดับทั้งระบบให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัว 6-7% ต่อปี ล่าสุดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,400 เมกะวัตต์ แต่มีกำลังการผลิตเพียง 2,100 เมกะวัตต์ โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว