ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รอด! ศาลอุทธรณ์ภาค 3 โคราชมีคำสั่งยกคำร้อง กกต.ให้ใบเหลือง “สุรวุฒิ” ลูก “เจ๊เกียว” นายกเล็กเมืองย่าโมพร้อมพวกคดีโกงเลือกตั้ง ระบุหลักฐานไม่แน่ชัดว่าซื้อเสียง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (23 ก.ย.) ห้องพิจารณาคดีที่ 1 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้พิพากษา 3 คน นำโดย นายไกรยง ติวราภรณ์ศานติ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งหมายเลขดำที่ ลต 9/2556 ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง กับ นายสุรวุฒิ เชิดชัย ที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ผู้คัดค้าน เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 40 นาที
โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ กกต.จังหวัดนครราชสีมา ตัวแทน กกต., นายบำรุง เจริญพจน์ ที่ปรึกษากฎหมาย นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และทนายความของสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 2 เข้ารับฟังการพิจารณาครั้งนี้ ส่วนนายสุรวุฒิ และสมาชิกสภาทั้ง 7 คนไม่ได้เดินทางมาร่วมฟังคำสั่งศาลในครั้งนี้เนื่องจากติดภารกิจ โดยศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ กกต.
นายบำรุง เจริญพจน์ ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้ยกคำร้องของ กกต. เนื่องจากศาลไม่เชื่อพยานหลักฐานของผู้ร้อง และหลักฐานที่นำมาไต่สวนยังมีข้อพิรุธให้สงสัย
“วันนี้นายสุรวุฒิได้รับความเมตตาจากกระบวนการยุติธรรม และอีกส่วนหนึ่งพยานหลักฐานไม่แน่ชัดว่านายสุรวุฒิไปเกี่ยวข้องกับ นายฐิติโชค มายขุนทด ผู้ร้อง ได้อย่างไร ไม่มีหลักฐานใดๆ เชื่อมโยงเลย ที่ผ่านมาเราเชื่อมั่นมาตลอดว่าการเลือกตั้งที่เป็นไปด้วยความสุจริต ไม่มีการซื้อเสียง เรื่องที่เกิดขึ้นทางเราไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตัวนายฐิติโชคเข้ามาเชื่อมโยงขบวนการนี้ได้อย่างไร นายสุรวุฒิ และสมาชิกทั้ง 7 ไม่รู้เรื่องจริงๆ และเป็นที่น่าสังเกตคือวันที่มีการซื้อเสียงมีการซื้อเสียงแค่ 2 ราย ซึ่งเป็นการผิดวิสัยของการเลือกตั้ง และโพลที่ออกมาก็ระบุชัดเจนว่า นายสุรวุฒิ และทีมชนะเข้ามาอย่างแน่นอน ฉะนั้นวันนี้ก็กระจ่างชัดตามที่ศาลท่านได้มีคำสั่ง” นายบำรุงกล่าว
นายบำรุงกล่าวอีกว่า หลังทราบคำสั่งศาลได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้นายสุรวุฒิทราบแล้ว ซึ่งนายสุรวุฒิก็ดีใจ และขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความเป็นธรรม พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ส่วนจะกลับเข้าไปทำงานเมื่อใดนั้น คงต้องรอหนังสือจากทางศาลอุทธรณ์ที่จะส่งมาถึงเทศบาลนครนครราชสีมาก่อน
อนึ่ง คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมาเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2555 โดย นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ลูกชาย นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” และกลุ่มประสานมิตรพัฒนา ชนะการเลือกตั้งยกทีมทุกเขต แต่ในคืนวันที่ 25 พ.ค. 2555 มีการจับกุม นายฐิติโชติ มายขุนทด อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 463/4 ซอยไชยณรงค์ 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้พร้อมของกลางเป็นเงินสดฉบับละ 500 บาท 2 ใบ รวม 1,000 บาท บรรจุในซองสีขาวปิดผนึกรวม 66 ซอง เป็นเงิน 66,000 บาท และโพยรายชื่ออีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่ชุมชนหนองโสน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา โดยนายฐิติโชติรับสารภาพว่าซื้อเสียงให้ผู้สมัครนายกเทศมนตรีฯ หมายเลข 3 (นายสุรวุฒิ เชิดชัย) และผู้สมัคร ส.ท. “กลุ่มประสานมิตรพัฒนา” เขต 2
ต่อมากลางเดือน ก.ค. 2556 กกต.ได้มีมติให้ใบเหลืองนายสุรวุฒิ และให้มีการเลือกตั้งใหม่นายกเทศมนตรีนครราชสีมา และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 6 คน เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อได้ว่าให้หัวคะแนนไปกระทำการซื้อเสียง แต่ไม่พบหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายสรวุฒิมีส่วนรู้เห็น
จากนั้น วันที่ 18 มิ.ย. 2556 กกต.ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 30 ส.ค. 2556 จนกระทั่งวันนี้ (23 ก.ค.) ศาลได้นัดฟังคำสั่ง และศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว