ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี ลงทุนเมืองเพชร สร้างสวนน้ำดิจิตอลแห่งเดียวในเอเชีย

เพชรบุรี - ธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ เปิดตัวน้องใหม่ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” สวนน้ำดิจิตอลแห่งแรก และแห่งเดียวในเอเชีย

วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี (Santorini Water Fantasy) ถนนเพชรเกษม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี น.ส.นัสวีร์ ตันติจิรสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารโครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ แถลงข่าวกิจกรรม Press Tour “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” สวนน้ำระบบดิจิตอลแห่งแรก และแห่งเดียวในเอเชีย ทันสมัยที่สุดในประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้สัมผัสความทันสมัยของระบบดิจิตอล “ซานโตรินี คอนเนคส์” และความว้าว! ของชุดสไลเดอร์ และสถาปัตยกรรมกลางแจ้งของ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” สวนน้ำระบบดิจิตอลแห่งแรก เทคโนโลยีสวนน้ำที่สั่งตรงจากประเทศตุรกี ลงทุนกว่า 500 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 20 ไร่

ทั้งนี้ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” ประกอบด้วย เครื่องเล่นสวนน้ำสุดอลังการ ซึ่งมีทั้งหมด 12 attractions และอีก 1 extra ride เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่โซนเด็กเล็ก เด็กโต จนถึงเครื่องเล่นที่มีความตื่นเต้นดิ่งลงมาจากความสูง 19 เมตร และมีเครื่องเล่น “King Cobra” ที่มีลักษณะเป็นงูยักษ์แผ่แม่เบี้ยสีส้มเป็นซิกเนเจอร์ ที่จะสนุกสนานพร้อมกัน 4 คนบนห่วงยาง Double Tube นอกจากนี้ ภายในยังทันสมัยด้วยสายรัดข้อมือริสแบนด์ ให้ผู้ที่มาใช้บริการสามารถสื่อสารกับโลกออนไลน์ แชร์ภาพแห่งความสุขสนุกสุดมันส์ให้เพื่อนในเฟซบุ๊ก อิจฉากันได้ทันทีอีกด้วย โดยวันนี้มีครอบครัวของ หมิว-ลลิตา ศศิประภา ร่วมด้วยนักร้องสาวเสียงหวาน นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้ มาร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ของ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” และมีมินิคอนเสิร์ตบนเวทีกลางน้ำโดยศิลปินสุดฮอต ได้แก่ ป๊อด-โมเดิร์นด็อก และ jetset'er

น.ส.นัสวีร์ กล่าวว่า จากความสำเร็จของซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ในเฟสแรกที่เกินเป้าจากที่คาดหมายไว้ โดยมีผู้มาใช้บริการรวมกว่า 1.2 ล้านคน ทำให้ต่อจิ๊กซอว์เพิ่ม โดยจากนี้ไปธีม พลาซ่า จะลงมาทำสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว เพราะมองเห็นโอกาสทางตลาดที่ยังสามาถเติบโตได้อีก ประกอบกับสภาพภูมิอากาศประเทศไทยที่ทำให้เกิดไอเดียริเริ่มสวนน้ำขึ้น โดยมีจุดเด่น คือ เป็นเครื่องเล่นสไลด์ที่ได้มาตรฐานโลก มีเทคโนโยลีที่ทันสมัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเด็กเล็ก วัยรุ่น ตลอดจนครอบครัว บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ หรือ 30,000 ตารางเมตร ลงทุน 500 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI นอกจากนี้ ยังมีความน่าสนใจในเรื่องระบบดิจิตอล หรือมีเดีย แชริ่งที่เรียกว่า “ซานโตรินี คอนเนคส์” ใช้คลื่นวิทยุ RFID ในการทำงาน ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสามารถล็อกอิน และใช้ริสแบนด์เป็นสื่อในการอัปโซเชียล มีเดีย

โดยขณะเล่นเครื่องเล่นกล้องบนตัวสไลด์จะจับภาพไว้ หลังจากเล่นเสร็จผู้เล่นสามารถสแกนริสแบนด์ตรงจุดเช็กพอยนต์ เพื่อเลือกภาพของตนเอง และส่งแชร์ไปที่เฟซบุ๊กได้ทันที ทำให้เพื่อนสามารถเห็นภาพความเคลื่อนไหวของเราได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” ยังมีเครื่องเล่นที่เป็นซิกเนเจอร์แห่งเดียวในเอเชีย นั่นคือ Ares’s King Cobra “เราเลือกซัปพลายเออร์โดยพิจารณาจากมาตรฐานความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งได้บริษัท โพลิน ที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศตุรกี และติดท็อป 3 ของโลกมาดูแลจัดการให้ทั้งหมด มีทั้งหมด 12 attractions และอีก 1 extra ride โดยตั้งชื่อตามเทพเจ้ากรีก ได้แก่ Ares’s King Cobra, Apollo’s Drop Screamer, Bacchus’s Magic Hole, Hermes Falls, The Artemis’s Rapids, The thunder of Zeus, Athena’s Space Shaker, Vulcan’s Kamikaze, Venus Free Fly, Kid’s Paradise of Demeter, The Lazy Hera, Poseidon’s Lagoon และ Ring of The Titan

ขณะที่ด้านความปลอดภัยได้จัดให้มีการอบรมหลักสูตร Life Guard แก่เจ้าหน้าที่คุมเครื่องเล่น ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่คุมเครื่องเล่นไปฝึกอบรมกับสมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ ที่ได้รับการยอมรับในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยในการให้บริการ

สำหรับค่าบริการมี 2 อัตรา คือ General Admission Rater ผู้ใหญ่ 900 บาท เด็ก (สูงเกิน 130 ซม.) ผู้พิการ และผู้สูงอายุ 500 บาท และ Thai Residents Rater (คนไทย และชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย) ผู้ใหญ่ 700 บาท เด็ก (สูงเกิน 130 ซม.) ผู้พิการและผู้สูงอายุ 400 บาท ส่วนเด็กความสูงไม่ถึง 90 ซม. เข้าฟรี อัตรานี้สามารถเล่นได้ทุกอย่าง และอยู่ได้ทั้งวัน เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เวลา 09.00-19.00 น. และตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.วันจันทร์-พฤหัส 10.00-18.30 น. วันศุกร์-อาทิตย์ 09.00-21.00 น.หรือติดตามความคืบหน้าของโครงการ “ซานโตรินี วอเตอร์ แฟนตาซี” ได้ที่ www.santoriniwaterfantasy.com, www.facebook.com/santoriniPark