ลำปาง - หมอช้าง รพ.ช้างยังคงเร่งรักษาพังแม่ลูกอ่อนที่ป่วยด้วยอาการท้องอืด เกรงล้มหลังยังพบอาการไม่ดีขึ้น
วันนี้ (19 ก.ย.) นายสัตว์แพทย์ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกุล หัวหน้าฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมทีมสัตวแพทย์ยังคงเร่งช่วยเหลือและใรักษาแม่ช้างพังไพฑูรย์ ซึ่งเป็นช้างแม่ลูกอ่อน หลังเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ควาญช้างของปางช้างแห่งหนึ่งใน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ นำช้าง 4 เชือก เพศผู้ 1 เชือก เพศเมีย 3 เชือก รวมถึงลูกช้าง ที่ต้องเดินทางมากับแม่ด้วยมารักษาเนื่องจากช้างทั้ง 3 เชือกเกิดอาการท้องอืดจนท้องบวม
เบื้องต้นทางคณะสัตวแพทย์ได้ทำการรักษาจนปลอดภัยไปแล้ว 2 เชือก คงเหลือแต่พังไพฑูรย์ที่อาการยังน่าเป็นห่วง แม้สัตวแพทย์จะได้ทำการล้วงทางทวารช้างเพื่อเอากากหญ้าเนเปียใบแก่ ที่ช้างกินเข้าไปมากจนเกินไปออกมา แต่ก็ไม่สามารถล้วงออกมาได้ เนื่องจากกากอาหารมีขนาดใหญ่ และจุกอยู่ในลำไส้กลางลำตัว ทำให้วันนี้ทางสัตวแพทย์ได้ล้วงทวารอีกครั้ง ซึ่งสามารถดึงออกมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ช้างพังไพฑูรย์ยังยืนซึม อ่อนเพลีย และมีอาการเจ็บปวดจากอาการท้องอืด ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าว่าท้องบวมกางในระดับที่รุนแรง ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเป็นอย่างมาก สัตวแพทย์จึงต้องให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเวลา พร้อมให้ยาปฏิชีวนะเพื่อเร่งขับถ่ายและช่วยย่อย โดยตลอดเวลาที่สัตวแพทย์รักษาแม่ช้าง ลูกช้างพังน้องพลอยจะเข้ามาคลอเคลียอยู่กับแม่ช้าง เหมือนกับจะเข้ามาคอยให้กำลังใจแม่ช้างตลอดเวลา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุช้างท้องอืดและล้มมาแล้ว โดยเฉพาะช้างในภาคเหนือจะป่วยด้วยอาการดังกล่าวทุกปี แม้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ควาญช้างหรือเจ้าของช้างได้ทราบถึงสาเหตุแล้วก็ตาม แต่ก็ยังพบปัญหาดังกล่าวอยู่ และมีแนวโน้มเพิ่มมากยิ่งขึ้น นับเป็นความเสี่ยงต่อชีวิตช้าง และประชากรช้างไทยอย่างมาก จึงอยากขอร้องไปยังควาญช้างแล เจ้าของช้าง ให้นึกถึงความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย เพราะหญ้าแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะหญ้าเนเปียในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะเป็นหญ้าแก่ หากให้ช้างกินมากก็จะไม่ย่อย และทำให้ช้างท้องอืด อาจจะล้มได้ทันทีหากช่วยเหลือไม่ทัน