ชาวบ้านฮือไล่ ผกก.นาหว้า ดองคดีฆ่าหนุ่มโลตัส หวั่นผู้ต้องหาลอยนวล

นครพนม - ชาวบ้านรวมตัวขับไล่ผกก.นาหว้า ดองคดีฆ่าหนุ่มพนักงานโลตัสไม่คืบ ทั้งที่จับกุมผู้ต้องหาได้แล้วยังให้ประกันตัว ไม่สืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม หวั่นปล่อยคดีเงียบ เรียกร้องให้นายอำเภอช่วยเร่งรัดคดี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (16 ก.ย.) ชาวบ้านนาหว้า ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม นำโดยสิบตรี จีระศักดิ์ ชาสงวน อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ในฐานะประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอนาหว้า น.ส.ววิภา ไวแพน อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นภรรยาของนายเอกพล กรมแสง อายุ 26 ปี อดีตพนักงานห้างเทสโก้ โลตัส และชาวบ้านนับร้อยคน รวมตัวขอความเป็นธรรมจากนายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอนาหว้า

พร้อมประท้วงขับไล่ พ.ต.อ.วีระชาติ สุบงกช ผกก.สภ.นาหว้า และตำรวจเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ เนื่องจากทำงานล่าช้าเกี่ยวกับคดีนายเอกพลที่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 กันยายน โดยตำรวจได้จับกุมนายดำรง นาโควงค์ อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุ และให้ประกันตัวออกไป แต่ไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติม และไม่ติดตามหาหลักฐานในที่เกิดเหตุทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า อาจจะทำให้ผู้ก่อเหตุไม่ได้รับการลงโทษตามกฎหมาย แม้จะติดตามทวงถามหลายครั้งก็ไม่ได้รับความสนใจ จึงต้องเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้นายอำเภอช่วยเร่งรัดคดีเพราะพึ่งตำรวจไม่ได้แล้ว

ต่อมานายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอนาหว้า พ.ต.อ.วีระชาติ สุบงกช ผกก.สภ.นาหว้า มารับเรื่อง โดย พ.ต.อ.วีระชาติชี้แจงว่าตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ไม่ได้นิ่งเฉย แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการประกันตัวของผู้ต้องหานั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจศาล ไม่เกี่ยวกับตำรวจ ส่วนเรื่องของหลักฐานในที่เกิดเหตุนั้นไม่พบอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ

ซึ่งจากการตรวจสภาพศพผู้ตายพบมีบาดแผลถูกของมีคมแทงบริเวณท้อง ซึ่งตำรวจกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานประกอบคดี แต่หากชาวบ้านต้องการให้ชี้แจงตำรวจก็ยินดี แต่ยืนยันได้ว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่างเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

โดยเบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหานายดำรง ฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และต้องรอการสอบสวนเพื่อส่งสำนวนต่ออัยการฟ้องศาลต่อไป สำหรับการเพิ่มข้อหาตามข้อเรียกร้องนั้นต้องรอการสอบสวนก่อน แต่รับปากจะเร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ด้านสิบตรี จีระศักดิ์กล่าวว่า ทึ่มาขอความเป็นธรรมจากนายอำเภอเพราะชาวบ้านไม่มีที่พึ่งแล้ว สอบถามตำรวจหลายครั้งก็ไม่ได้รับความชัดเจน ทำให้เกิดความกังวล เพราะผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวออกมา และทราบว่าหลักฐานในที่เกิดเหตุก็ไม่มี ยิ่งปล่อยให้นานไป ยิ่งยากต่อการรวบรวมหลักฐาน อีกทั้งครอบครัวผู้ตายมีฐานะยากจน ไม่มีอำนาจต่อรองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมาเรียกร้องผ่านนายอำเภอเพื่อหาที่พึ่ง เพื่อให้ตำรวจเร่งรัดคดี หากไม่สามารถทำได้ก็อยากให้ผู้มีอำนาจพิจารณาย้ายออกจากพื้นที่ เพราะดูแลทุกข์สุขประชาชนไม่ได้ ประชาชนไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงขอฝากผู้มีอำนาจช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย