xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” ชนนายแบงก์-ปล่อย “ถุงเงิน” เดินว่อนชายแดน-เบิกถอนเอื้อค้ายาเสพติด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - “เฉลิม” เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดฯ ดึงนายแบงก์ตรวจสอบการโอนเงินนอกกฎหมาย ผบช.ภ.5 แฉพบ “ถุงเงิน” หิ้วถุงบัญชีนอมินีออกจากแบงก์เดินว่อนชายแดน ก่อนนำไปแยกเบิกถอนขนข้ามฝั่ง ทำเงินสะพัดในวงการค้ายาเสพติดพุ่งหลายหมื่นล้าน

วันนี้ (15 ก.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ได้เป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเงินออกนอกราชอาณาจักรของกระบวนการค้ายาเสพติด ที่ห้องประชุมดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย โดยมีนายตำรวจระดับสูง และผู้บริหารจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ฯลฯ เข้าร่วมประมาณ 250 คน

โดยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแจ้งข้อมูลต่อผู้เข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ช่วยสกัดกั้นการนำเงินเข้าสู่ระบบการค้ายาเสพติด เช่น ป.ป.ส.ให้ข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดในปี 2556 ว่ามีคดีเกิดขึ้นกว่า 418,900 คดี วงเงินร่วม 2,242 ล้านบาท ของกลางเป็นยาบ้านับ 100 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 1,588 กิโลกรัม เฮโรอีน 708 กิโลกรัม ฯลฯ ซึ่งมากที่สุดในรอบ 10 ปี

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ปัจจุบันยาเสพติดที่ทะลักเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะยาบ้า ผลิตจากประเทศพม่าถึง 97% ซึ่งตนพูดโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ และสารตั้งต้นเพื่อการผลิตคือซูโดอีเฟดรีนก็ส่งออกไปจากไทยผ่าน จ.เชียงราย เป็นหลัก เคยมีการจับกุมคนระดับ พ.ต.ท.หญิง คนหนึ่งที่พะเยาที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และยังขยายผลไปถึงวงการแพทย์ที่นำสารตั้งต้นเหล่านี้ออกมาขาย

ร.ต.อ.เฉลิมบอกอีกว่า ตนเคยเถียงกับ รมว.แรงงานของพม่า ก็ได้รับแจ้งให้ประเทศไทยเราป้องกันชายแดนให้ดี แต่ปัจจุบันการป้องกันก็ทำได้ยากเพราะมีการลักลอบนำเข้าทางอินเดีย และอื่นๆ อีก เมื่อขบวนการปรับเปลี่ยนวิธีการไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ก็ทำให้สงสัยว่าเหตุใดขบวนการนี้จึงสามารถนำเงินออกมาซื้อขายแลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการซื้อขายกันได้อย่างคึกคัก และมีเงินหมุนเวียนในวงการนี้นับหมื่นล้านบาท

“เมื่อเร็วๆ นี้มีการยึดเงินที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดท้องที่ จ.เชียงราย แล้วสุดท้ายก็ขยายผลไปถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งที่ อ.แม่สาย ดังนั้นจึงเป็นการขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคธนาคาร แต่ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งเอาผิดธนาคาร แต่อยากให้ร่วมมือแจ้งข่าวสารกับตำรวจ และ ป.ป.ส.”

จากนั้นได้จัดให้มีการเสวนาระหว่างผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุม ซึ่ง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.ภาค 5 แจ้งว่า ยาเสพติดส่วนใหญ่ผลิตในประเทศพม่า และปัจจุบันนำเข้าผ่าน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่เท่านั้น โดยเฉพาะ อ.แม่จัน อ.แม่สาย และ อ.แม่ฟ้าหลวง มีการลักลอบนำเข้ามากที่สุด แต่ละครั้งวงเงินมหาศาล

พล.ต.ท.สุเทพกล่าวอีกว่า หากวันนี้มีพ่อค้ายาเสพติดสั่งซื้อยาบ้ามูลค่า 200 ล้านบาทจาก พ.ท.ยี่เซ กองกำลังมูเซอที่ฝั่งพม่า ก็น่าคิดว่าพวกเขาจะจ่ายเงินกันอย่างไร เพราะเป็นจำนวนมหาศาล ที่สำคัญฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย ไม่มีธนาคาร แต่ธนาคารมีอยู่เฉพาะฝั่งไทย วิธีการที่ทราบคือ มีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารโดยแบ่งย่อยเป็นหลายๆ บัญชีเพื่อไม่ให้เกินวงเงินที่กฎหมายกำหนด เช่น บัญชีละ 1.8-1.9 ล้านบาท โดยมีคนในธนาคารคอยช่วยเหลือทำบัญชีตัวแทนหรือนอมินี ช่วงเย็นหลัง 16.00 น.จะพบคนในธนาคารถือถุงเรียกว่าพวก “ถุงเงิน” หิ้วถุงบัญชีธนาคารรายชื่อนอมินี รายชื่อบุคคลต่างๆ แล้วรอรับโทรศัพท์ เมื่อได้รับคำสั่งก็จะทำการโอนเงินไปมา และเบิกมาครั้งละไม่เกิน 500,000 บาทแล้วนำข้ามฝั่งไป เพื่อไม่ให้เกินที่กฎหมายไทยกำหนดเรื่องการนำเงินส่งออกไปต่างประเทศ

“ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดเงิน พบว่าคนขนเป็นถึงผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง”

พล.ต.ท.สุเทพกล่าวว่า ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้มุ่งเอาผิดธนาคาร ธุรกรรมทางการเงินสามารถทำได้ แต่อยากขอความร่วมมือให้แจ้งข้อมูลบัญชี หรือบุคคลที่มีพิรุธให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย และอย่าให้มีพวก “ถุงเงิน” หิ้วถุงไปมาหลังเวลา 16.00 น.อีก เชื่อว่าหากสกัดเส้นทางการเงินอย่างนี้ได้ก็จะทำให้ปริมาณการค้ายาเสพติดลดลง

โดยดูได้จากหลังตำรวจเริ่มเข้มข้นตรวจสอบหนัก ทางการท่าขี้เหล็กก็แจ้งถึงคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า (ทีบีซี) ระดับท้องถิ่นว่า คนของเขาถูกตรวจสอบเงินหนักถึงขั้นระบุว่าตำรวจไปรีดไถ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ชี้แจงไปว่า หากบริสุทธิ์ใจก็ให้นำเงินไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ถ้ามีบัญชีชี้แจงว่านำมาซื้อสินค้าชายแดน ทางตำรวจจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด แต่ที่ผ่านมาพบพิรุธหลายครั้งและน่าสงสัยเรื่องการซื้อขายของขบวนการค้ายาเสพติดที่มีมหาศาล โดยพบชอบซอยบัญชีเรียกว่า “ห้อยบัญชี” คือนำเงินมากๆ มาซอยเป็นหลายบัญชีแล้วดำเนินธุรกรรม

ด้านตัวแทนภาคธนาคาร เช่น นายวีระชาติ ศรีบุญมา ที่ปรึกษา ผช.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, น.ส.ชุติมา บุญมี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานควบคุม สมาคมธนาคารไทย ฯลฯ ได้ให้ข้อมูลเรื่องระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินพร้อมฐานความผิดหากละเมิด รวมทั้งจะมีการขยายวงเงินออกจาก 500,000 บาทเป็น 2 ล้านบาทในอนาคตเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีด้วย ขณะเดียวกันทางธนาคารก็มีระเบียบให้ข้อมูลกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่แล้วด้วย

ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า ทฤษฎีที่ภาคธนาคารให้มีมานานแล้ว และถือว่าไม่ผิด แต่ก็ให้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีระเบียบ แต่เหตุใดการซื้อขายยาเสพติดและสารตั้งต้นผ่านชายแดนแห่งนี้ยังมีอยู่ จึงขอให้วางทฤษฎีนั้นลงและหันมาร่วมมือในการแจ้งข้อมูลข่าวสารต่อเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันปราบปราม เพราะจะใช้สูตรแบบเดิมไม่ได้ แม้แต่การเข้าสู่เออีซียังเลื่อนจากเดิม 3 ปีเป็น 5 ปีได้ รวมทั้งให้ตระหนักว่าปัจจุบันมีคนติดยาเสพติดอย่างไม่เป็นทางการมากถึง 10 ล้านคนด้วย

พร้อมกันนั้น พล.ต.ท.สุเทพยังให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า ตำรวจไม่ได้ต้องการเอาผิดเรื่องระเบียบทางการเงินของธนาคาร เพียงแต่ต้องการความร่วมมือ เช่น ถ้าพบพิรุธคนเปิดบัญชีเดียวแล้วซอยย่อยโอนเงินเข้าออกบัญชีเดียวผิดปกติ มีบัญชีแปลกๆ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่แจ้งตำรวจก็ปราบปรามยาก

ด้าน พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ติดยาเสพติดอย่างเป็นทางการราว 1.2-2 ล้านคน มีเม็ดเงินที่ทะลักออกนอกประเทศผ่านการโอนที่มีพิรุธอย่างน้อย 7,000 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนในระบบประมาณ 14,000 ล้านบาท รวมเงินในวงการนี้ร่วม 21,000 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ

ตัวอย่างเช่น คดีเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 55 เจ้าหน้าที่ ปส.และ ภ.ภาค 5 ได้ทลายเครือข่ายยาเสพติดรายหนึ่ง โดยจับกุม น.ส.อาปู่ หมือแล ได้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สาย ซึ่งเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย แต่กลับไปรับเงินโอนจากธนาคารที่ อ.แม่สายกว่า 27 ล้านบาท ด้วย 37 บัญชี เป็นเงินจากธนาคารกรุงเทพ 12 ล้านบาท และธนาคารกสิกรไทย 15 ล้านบาท โดย น.ส.อาปู่ทำเป็นผู้รับมอบอำนาจ แล้วนำบัญชีบุคคลจำนวนมาก พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนไปเบิกเงินแยกย่อยบัญชีละ 1.9 ล้านบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ความช่วยเหลือ

“อยากให้ภาคธนาคารช่วยตรวจสอบเพราะมีพิรุธมาก และเมื่อตรวจสอบไปยัง ปปง.ปรากฏว่าคนในบัญชีโอนเงินในลักษณะนี้ภายในปีนี้ร่วม 1,000 ล้านบาทแล้ว”

พล.ต.ท.สุรพลบอกว่า ไม่ได้โทษธนาคาร แต่ธุรกรรมอย่างนี้มีพิรุธมาก และตำรวจเคยประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคาร ผลก็คือคนที่จะทำธุรกรรมกลับหยุดการเคลื่อนไหวทันที ดังนั้นลักษณะของขบวนการจึงเป็นการถ่ายโอนเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยเพื่อให้เชื่อมถึงกันระหว่างต้นทาง และปลายทาง จึงต้องร่วมกันสกัดกั้นให้ได้

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังย้ำในตอนท้ายด้วยว่า ในอดีตมีผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ๆ เช่น เหว่ย เซียะ กัง ฯลฯ ถูกจำคุก แต่ก็หนีรอดไปค้าใหม่ได้ ปัจจุบันยังมีผู้ค้ายาเสพติดกว่า 570 คนที่ถูกดำเนินคดี แต่พวกนี้กลับไม่ตาย ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้พวกมันตายได้บ้างคือการทำลายทางการเงินนั่นเอง

ซึ่งท้ายที่สุดหน่วยงานต่างๆ ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยมีการนัดหมายเพื่อจัดประชุมร่วมหน่วยงานต่างๆ หาวิธีการโดยอาจตั้งเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น