บุรีรัมย์ - หลังก๊าซหุงต้ม และวัตถุดิบประกอบอาหารปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อแม่ค้าขายอาหารใน มรภ.บุรีรัมย์ แบกภาระต้นทุนไม่ไหว เตรียมรวมตัวเสนอขอมหาวิทยาลัย ปรับขึ้นราคาจานละ 5 บาท ชี้ขายราคาเดิมมากกว่า 4 ปี พร้อมวอนรัฐบาลควบคุมราคาสินค้า
วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน และวัตถุดิบเกือบทุกประเภทที่นำมาประกอบอาหาร เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมู เครื่องปรุงรส ได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว และอาหารตามสั่งในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มากกว่า 20 ร้านค้า ที่จำหน่ายให้แก่นักศึกษาต้องมีต้นทุนสูงขึ้น
โดยจากเดิมซื้อก๊าซหุงต้มในราคาถังละ 315 บาท ปัจจุบันซื้อถังละ 325-330 บาท ไข่ไก่เดิมแผงละ 90-100 บาท เพิ่มเป็นแผงละ 110-120 บาท เนื้อหมูเดิมกิโลกรัมละ 120 บาท ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 130-135 บาท ทำให้พ่อค้าแม่ค้าแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว จึงได้มีการพูดคุยหารือกัน เพื่อเตรียมเสนอขอให้คณะกรรมการที่ดูแลผู้ประกอบการร้านค้าภายในมหาวิทยาลัย ได้พิจารณาปรับขึ้นราคาอาหารอีกจาน หรือชามละ 5 บาท เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พ่อค้าแม่ค้าไม่ประสบปัญหาขาดทุน เพราะพ่อค้าแม่ค้าได้ขายอาหารให้แก่นักศึกษาในราคาควบคุมของทางมหาวิทยาลัยจานละ 20-25 บาท มานานกว่า 4 ปี
ด้าน นางศิริพร ตุ้มประโคน แม่ค้าขายข้าวแกงในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้ายังไม่กล้าปรับขึ้นราคา แม้ราคาวัตถุดิบหลายอย่างจะปรับสูงขึ้น เพราะเกรงจะกระทบต่อนักศึกษา แต่หลังจากก๊าซหุงต้ม และวัตถุดิบหลายชนิดยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว จึงเตรียมเสนอขอให้ทางมหาวิทยาลัยฯ พิจารณาให้ปรับขึ้นราคาอีก 5 บาท เพื่อความอยู่รอด
“พร้อมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา และควบคุมราคาสินค้าไม่ให้แพงขึ้นมากกว่านี้เพราะนอกจากจะกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าแล้ว ยังจะกระทบต่อนักศึกษา และประชาชนผู้บริโภคด้วย” นางศิริพรกล่าว