ศูนย์ข่าวศรีราชา - บริษัทรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่แหลมฉบัง-ศรีราชา เจ้าแจ้งความดำเนินคดีหนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รีดไถเงินผู้รับเหมาก่อสร้างเลือกกลุ่มที่มีแรงงานต่างด้าว
วันนี้ (10 ก.ย.) พ.ต.ต.ประพันธ์ วังคะออม สว.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าทุกข์หลายรายซึ่งทุกคนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้ถูกนายศิริชัย สมจิตต์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 309/4 ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลอกลวงรีดไถเงิน โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทาง สภ.หนองขาม ได้รับการประสานงานจากหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และได้ทำการติดตามสืบค้นจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบที่ตัวมีอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตไปในที่สาธารณะและหมู่บ้าน หลังจากนั้นได้มีเจ้าทุกข์จำนวนนับสิบรายได้เข้ามาชี้ตัวคนร้ายดังกล่าวว่าถูกหลองลวงเอาเงินไปโดนหลอกว่าเป็นตำรวจมาเก็บเงินจากผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีคนงานงานก่อสร้างเป็นคนต่างด้าว
แหล่งข่าวจากผู้รับเหมาก่อสร้าง เผยว่า ตนเป็นผู้ทำงานรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่แหลมฉบัง-ศรีราชา โดยคนงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้างทั้งที่มีบัตรทำงานในประเทศถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีบัตรฯ ซึ่งเราจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเนื่องจากงานก่อสร้างคนไทยไม่ทำ เพราะเป็นงานหนักต้องแบกหาม และตากแดด
สำหรับแรงงานต่างด้าวกลุ่มที่มีบัตรฯ ก็จะอยู่ได้ไม่นานเพราะถือว่ามีบัตร จะไปทำงานที่ไหนก็ได้ ทางผู้รับเหมาจึงมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกกฎหมาย โดยที่ผ่านมา เราก็มีการจ่ายเงินให้แก่หลายหน่วยงานเป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 1,000 บาทก็ไม่มีปัญหาอะไร พอจะจ่ายได้ แต่ล่าสุด นายศิรฺชัย สมจิตต์ ก็ได้เข้ามาที่ไซต์งาน และแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งขอเก็บเงินคนละ 2,000 บาท ซึ่งในไซต์งานที่ทำงานอยู่มีทั้งหมด 3 ผู้รับเหมา
หลังจากนั้นผ่านไปไม่ถึง 1 เดือน เข้ามาเก็บอีก พร้อมทั้งบอกว่าช่วงนี้เจ้านายมีปัญหาจำเป็นต้องใช้เงิน เนื่องจากไปจับคดียาบ้าแล้วพลาดไปยิงถูกนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพาเสียชีวิตจึงจะมาขอเก็บเงินจากพวกเราเพื่อนำไปจ่ายให้ญาติผู้ตายดังกล่าว โดยคราวนี้ขอเก็บเงินล่วงหน้า 4 เดือน รวมเป็นเงินคนละ 8,000 บาท รวมกับของเดิมอีก 2,000 บาท เป็น 10,000 บาท ภายในไม่ถึงเดือน
“ผมรู้สึกว่ารับไม่ได้ และคิดว่าถูกหลอกแน่ๆ จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี พวกเราทำงานหาเช้ากินค่ำ เงินหนึ่งหมื่นมีค่ามากสำหรับพวกเรา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมวอนหน่วยงานรัฐให้มีการช่วยเหลือเรื่องแรงงานขาดแคลน ซึ่งคนไทยไม่ทำก็อนุญาตให้ต่างด้าวทำ และมีการทำประวัติให้ชัดเจน ผู้รับเหมาจะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ หรือหาวิธีการใดๆ ก็ได้ ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว”
วันนี้ (10 ก.ย.) พ.ต.ต.ประพันธ์ วังคะออม สว.สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าทุกข์หลายรายซึ่งทุกคนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้ถูกนายศิริชัย สมจิตต์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 309/4 ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลอกลวงรีดไถเงิน โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทาง สภ.หนองขาม ได้รับการประสานงานจากหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และได้ทำการติดตามสืบค้นจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบที่ตัวมีอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตไปในที่สาธารณะและหมู่บ้าน หลังจากนั้นได้มีเจ้าทุกข์จำนวนนับสิบรายได้เข้ามาชี้ตัวคนร้ายดังกล่าวว่าถูกหลองลวงเอาเงินไปโดนหลอกว่าเป็นตำรวจมาเก็บเงินจากผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีคนงานงานก่อสร้างเป็นคนต่างด้าว
แหล่งข่าวจากผู้รับเหมาก่อสร้าง เผยว่า ตนเป็นผู้ทำงานรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่แหลมฉบัง-ศรีราชา โดยคนงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้างทั้งที่มีบัตรทำงานในประเทศถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีบัตรฯ ซึ่งเราจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเนื่องจากงานก่อสร้างคนไทยไม่ทำ เพราะเป็นงานหนักต้องแบกหาม และตากแดด
สำหรับแรงงานต่างด้าวกลุ่มที่มีบัตรฯ ก็จะอยู่ได้ไม่นานเพราะถือว่ามีบัตร จะไปทำงานที่ไหนก็ได้ ทางผู้รับเหมาจึงมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกกฎหมาย โดยที่ผ่านมา เราก็มีการจ่ายเงินให้แก่หลายหน่วยงานเป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 1,000 บาทก็ไม่มีปัญหาอะไร พอจะจ่ายได้ แต่ล่าสุด นายศิรฺชัย สมจิตต์ ก็ได้เข้ามาที่ไซต์งาน และแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งขอเก็บเงินคนละ 2,000 บาท ซึ่งในไซต์งานที่ทำงานอยู่มีทั้งหมด 3 ผู้รับเหมา
หลังจากนั้นผ่านไปไม่ถึง 1 เดือน เข้ามาเก็บอีก พร้อมทั้งบอกว่าช่วงนี้เจ้านายมีปัญหาจำเป็นต้องใช้เงิน เนื่องจากไปจับคดียาบ้าแล้วพลาดไปยิงถูกนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพาเสียชีวิตจึงจะมาขอเก็บเงินจากพวกเราเพื่อนำไปจ่ายให้ญาติผู้ตายดังกล่าว โดยคราวนี้ขอเก็บเงินล่วงหน้า 4 เดือน รวมเป็นเงินคนละ 8,000 บาท รวมกับของเดิมอีก 2,000 บาท เป็น 10,000 บาท ภายในไม่ถึงเดือน
“ผมรู้สึกว่ารับไม่ได้ และคิดว่าถูกหลอกแน่ๆ จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี พวกเราทำงานหาเช้ากินค่ำ เงินหนึ่งหมื่นมีค่ามากสำหรับพวกเรา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมวอนหน่วยงานรัฐให้มีการช่วยเหลือเรื่องแรงงานขาดแคลน ซึ่งคนไทยไม่ทำก็อนุญาตให้ต่างด้าวทำ และมีการทำประวัติให้ชัดเจน ผู้รับเหมาจะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ หรือหาวิธีการใดๆ ก็ได้ ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว”