กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี คุมเข้มลานรับซื้อไม้ท่อน หลังชาวบ้านร้องเปิดกันเกร่อ หวั่นนำไม้ป่าสวม สั่งอายัดตรวจสอบแล้ว 3 แห่ง
เมื่อเวลา 15.15 น. วันนี้ (8ก.ย.) นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหนาที่เข้าตรวจสอบสถานะของไม้ตามลานรับซื้อไม้ท่อนในเขต อ.เมือง หลังชาวบ้านร้องเรียนผ่านทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่า ขณะนี้มีการเปิดลานรับซื้อไม้ท่อนหลายแห่ง เกรงว่าจะมีการลักลอบค้าไม้หวงห้าม ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องปราม และปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการปกป้องรักษาป่า จึงให้ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน ประสานงานกับหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) สภ.ลาดหญ้า และ สภ.เมือง ร่วมตรวจสอบสถานะของไม้ตามลานไม้
โดยริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 3-6 กันยายน เข้าตรวจสอบลานบอยค้าไม้ เลขที่ 86 หมู่ที่ 6 ต.ช่องสะเดา มี น.ส.อุมาพร บรรดาศักดิ์ อายุ 30 ปี รับเป็นผู้ดูแล พบไม้หวงห้ามซึ่งจะต้องแสดงที่มาของไม้ โดยผู้ดูแลไม่สามารถนำเอกสารใดๆ มาแสดงได้จึงอายัดไม้ไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป
จากนั้นเข้าตรวจสอบลานไม้แก่งเสี้ยน เลขที่ 302 หมู่4 ต.แก่งเสี้ยน พบ นายกฤษฎา ทิพย์เนตร อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 13 ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี รับเป็นผู้ดูแล พบไม้ท่อน และไม้ฟืนวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ผู้ดูแลไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของไม้ได้ แต่เนื่องจากขณะตรวจสอบเป็นเวลาค่ำมืด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกยินยอมให้อายัดไม้ไว้เพื่อตรวจสอบเช่นกัน
ล่าสุด เข้าตรวจสอบลานไม้โรงงานแปรรูปไม้ทองเจริญ เลขที่ 225 หมู่ 2 ต.เกาะสำโรง พบนายฉัตรวรงค์ ลีละสุนทเลิศ เจ้าของกิจการ พบไม้ท่อนวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างแปรรูปไม้ จึงขอให้นำหลักฐานที่มาของไม้มาแสดง และตรวจพบไม้สัก 55 ท่อน
จากการสอบถามทราบว่า เป็นไม้สักของ นายกฤษณะ ศิลปสิทธิ์ ซึ่งนำมาจ้างแปรรูป จึงให้ผู้ประกอบการแจ้ง นายกฤษณะ นำเอกสารหลักฐานมาแสดง แต่เนื่องจากขณะตรวจสอบเป็นเวลาค่ำมืดเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกยินยอมให้อายัดไม้ไว้เพื่อตรวจสอบในภายหลัง
นายศรัทธา กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบไม้ตามลานไม้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการป้องปราม และป้องกันการทำลายป่า ให้ผู้ประกอบการลานไม้มีจิตสำนึกในการประกอบการให้ถูกต้อง ป้องกันไม่ให้มีการนำไม้หวงห้ามมาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต ซึ่งน่าจะเป็นผลดี เพราะการตัดไม้ทำลายป่าทำให้เกิดมลพิษ เพิ่มภาวะโลกร้อนกระทบต่อประเทศไทยในอนาคต