กาญจนบุรี - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กาญจนบุรี นำกำลังบุกยึดไม้ 27 ท่อน หลังขบวนค้าไม้เถื่อนลักลอบตัดแล้วแอบซุกซ่อนไว้ขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ
เมื่อเวลา 02.30 น. วันนี้ (5 ก.ค.) นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี ได้รับรายงานว่า มีขบวนการตัดไม้ทำลายป่าแอบซุกซ่อนไม้ท่อนไว้ที่บริเวณป่าริมขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ พื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังจากรับแจ้ง นายมานะ ได้ประสานงานเพื่อสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ สายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สายที่ 1 ตร.บก.ปทส.หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ กจ.2 (พุถ่อง) ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า รวมจำนวน 40 นาย ออกร่วมกันลงเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เดินทางถึงจุดเป้าหมายพบเป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยเขยง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้ลงสำรวจในน้ำบริเวณขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ที่ความลึกประมาณ 80 เซนติเมตร ตรวจพบไม้ลักษณะเป็นท่อนกองอยู่ใต้น้ำ โดยเป็นไม้หวงห้ามชนิดไม้แดง และชนิดไม้ประดู่ ลักษณะถูกตัดทอนเป็นท่อน กองซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำริมอ่างเก็บน้ำฯ มีร่องถูกตัดโดยการใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ตรวจสอบหน้าตัดของไม้ดังกล่าวไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด โดยไม้ทั้งหมดมีจำนวน 27 ท่อน ปริมาตร 2.18 ลูกบาศก์เมตร จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ดังกล่าว จากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดในฐานทำไม้ มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง ฐานรับไว้ ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสีย ซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าได้มาโดยการกระทำผิด ตามความในมาตรา 11, 69, และ 70 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ดำเนินคดีต่อไป
โดยนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เปิดเผยเกี่ยวกับการตรวจยึดไม้ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ว่า จากการที่สืบทราบว่ามีขบวนการลักลอบทำไม้นำไม่มาซ่อนในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ จึงได้มาตรวจสอบ และทำการตรวจยึดเพื่อเป็นการมีส่วนร่วมในการปกป้องรักษาป่า ตนอยากจะประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนรอบพื้นที่อุทยานฯ ว่า หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ หรือสัตว์ป่าอยากให้ช่วยแจ้งเบาะแสมายังตน หรือแจ้งมาที่อุทยานฯ ที่อยู่ใกล้เพื่อจะได้ช่วยกันปราบปรามขบวนการตัดไม้ และล่าสัตว์ป่าให้หมดไปจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งยังจะเป็นการช่วยป้องกันและอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าให้คงอยู่กับป่าอย่างสมบูรณ์ต่อไป