โขลงช้างป่าบุกประชิดหมู่บ้าน กัดกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายเพิ่มขึ้น

จันทบุรี - โขลงช้างป่าบุกเข้าประชิดหมู่บ้าน กัดกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายหลังชุดอนุรักษ์ช้างป่า และกลุ่มจิตอาสาที่ชาวบ้านจัดตั้งขึ้นมีกำลังน้อย ด้านจังหวัดแนะขยายพื้นที่ปลูกอาหารให้ช้างป่าให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

ความคืบหน้าโขลงช้างป่ากว่า 40 ตัว ที่ลงจากเขาแหลมมาประชิดใกล้หมู่บ้านมากขึ้น ล่าสุด การเฝ้าดูแลขับไล่ของชุดอนุรักษ์ช้างป่า และกลุ่มจิตอาสาที่มีกำลังน้อยกว่าโขลงช้างป่าเริ่มทำได้ยากขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากโขลงช้างป่าได้กระจายโขลงออกหากินไปรอบหมู่บ้าน การดูแล และการขับไล่ ทั้งการใช้ประทัดจุดไล่ การเคาะปี๊บเพื่อให้เกิดเสียงดัง การบีบแตรรถใส่เพื่อเกิดเสียงดัง หรือการใช้ไฟสาดส่องไปที่ตัวช้างป่า ปัจจุบันช้างป่าเหล่านี้ไม่ได้กลัว หรือหนีแต่อย่างใด จึงทำให้การขับไล่ทำได้ยากขึ้น

ส่งผลทำให้โขลงช้างป่าจึงเข้ามาในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเพื่อมาหากินเพื่อความอยู่รอด จึงทำให้ความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นขนุน ยางพารา กล้วย และสวนปาล์ม ถูกช้างป่ากัดกินเหยียบย่ำเสียหายเป็นวงกว้างมากขึ้น

ในส่วนนี้ทางจังหวัด คือ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาช้างป่าตนเองได้แนะแนวทางโดยการขยายพื้นที่การปลูกอาหารให้ช้างป่ามากขึ้น ทั้งการปลูกกล้วย ปลูกต้นเต่าล้ง และหญ้าลิเบีย ที่เป็นอาหารของช้างป่าเพื่อลดปัญหาโขลงช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ของชาวบ้าน และเพื่อให้ช้างป่าสามารถอยู่ร่วมกับชาวบ้านได้

นอกจากนี้ การที่ชาวบ้านจะนำอาหาร คือ สับปะรดไปเทกองให้แก่ช้างป่าได้กินเป็นอาหารนั้นทางจังหวัดเห็นด้วย แต่จะต้องเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม ห่างไกลจากหมู่บ้าน และควรให้เฉพาะในช่วงอาหาร และแหล่งน้ำบนเขาแหลมหมดเท่านั้น ไม่ควรให้ทุกครั้งไป เพราะจะทำให้ช้างป่าติดนิสัยหากินไม่เป็น และจะคอยอาหารจากชาวบ้าน ส่วนการตอบรับของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทางจังหวัดได้รับรายงานมาว่า กรมจะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บดีเอ็นเอช้างป่าเพื่อพิสูจน์เมื่อเกิดเหตุจะได้รู้แน่ชัดว่าเป็นช้างป่าตัวใดที่ทำร้ายชาวบ้าน

ทั้งนี้ คาดว่าในปีงบประมาณใหม่เดือนตุลาคม 2556 นี้ กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดจันทบุรี เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างป่าให้แก่ชาวบ้านได้ ซึ่งในช่วงนี้เป็นปลายปีงบประมาณ จึงทำให้การแก้ไขปัญหาอาจจะติดขัดในเรื่องของงบประมาณดังกล่าว จึงไม่สามารถลงมาแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านได้