xs
xsm
sm
md
lg

กรมอุทยานฯ รุดตรวจไม้พะยูงของกลางกว่า 700 ท่อน จับเขมรลอบตัด 240 คดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไพศาล  สถิตวิบูลย์   ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ ตรวจดูไม้พะยูงของกลางกว่า 700 ท่อน  240 คดี มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท  ที่  เขตรักษาพันธุ์พันสัตว์ป่าห้วยทับทัน—ห้วยสำราญ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ( 5 ก.ย.)
สุรินทร์ - ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานฯ รุดตรวจดูไม้พะยูงของกลางกว่า 700 ท่อน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทที่ จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมชาวเขมรลักลอบตัดไม้ชายแดนฝั่งไทยในรอบ 2 ปี รวม 240 คดี พบปัจจุบันลอบตัดหนักข้อมากขึ้น กำชับ จนท.ป้องกันปราบปรามเข้ม

วันนี้ (5 ก.ย.) เวลา 10.00 น. นายไพศาล สถิตวิบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมาตรวจราชการที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อมอบนโยบาย พร้อมติดตามการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง หลังพบชาวกัมพูชาข้ามแดนเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในป่าชายแดนฝั่งไทย ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ถี่มากขึ้น

โดยจากการรายงานของนายวิบูลย์ คำสัมฤทธิ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ พบว่า เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามผู้ที่ลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญอย่างต่อเนื่อง สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไม้พะยูงในรอบ 2 ปีที่ผ่านมารวม 240 คดี แยกเป็นปี 2555 จำนวน 111 คดี และปี 2556 จำนวน 129 คดี แยกเป็นผู้ต้องหาชาวกัมพูชา 144 คน ชาวไทย 67 คน ไม้พะยูงของกลางรวมปริมาตรทั้งหมดกว่า 81 ลูกบาศก์เมตร หรือ กว่า 700 ท่อน มูลค่าหากส่งขายฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งมีการรับซื้อของนายทุนราคากิโลกรัมละ 100-120 บาทขึ้นไป รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ นายไพศาล พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจดูไม้พะยูงของกลางทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดนำมาเก็บรักษาไว้ที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จำนวนมากดังกล่าวด้วย

นายไพศาล สถิตวิบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตนเดินทางมาดูงานเกี่ยวกับเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่า รวมทั้งพื้นที่ที่มีปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ซึ่งได้รับรายงานจากเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญว่ามีปัญหาเรื่องการลักลอบตัดไม้พะยูงจำนวนมาก ซึ่งทางเขตอนุรักษ์ฯ เองพยายามแก้ไขปัญหาโดยการประสานงานกับทุกหน่วยงาน รวมทั้งทางอำเภอ จังหวัดและหน่วยงานทหารเข้ามาช่วยกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งการดำเนินการสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและไม้พะยูงของกลางจำนวนมาก ส่วนการกระทำผิดมีทั้งคนไทย และชาวกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ป่าไม้นั้นทุกฝ่ายต้องช่วยรักษา และส่งเสริมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ รวมทั้งป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าธรรมชาติอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะไม้พะยูงที่มีการลักลอบตัดจำนวนมากในปัจจุบัน สำหรับอุปสรรคการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นอาจมีปัญหาความไม่ปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนมีกับระเบิด ต่างๆ ฝังไว้ ซึ่งต้องทำงานร่วมกับทางทหาร และฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด



กำลังโหลดความคิดเห็น