ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมว.คมนาคม เร่งลงพื้นที่พร้อม ผวจ.ชลบุรี ดูจุดเกิดเหตุรถไฟพุ่งชนรถพ่วง 22 ล้อ ที่วิ่งตัดหน้าบริเวณจุดตัดรถไฟ หมู่ 3 ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี พร้อมหามาตรการสร้างเหล็กกั้นที่แข็งแรงป้องกันรถยนต์ และ จยย.ข้ามผ่านขณะเลื่อนกั้นทางก่อนรถไฟมาถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวน 862 ซึ่งบรรทุกโบกี้เปล่าจากแหลมฉบัง 30 โบกี้ ไปยังสถานีลาดกระบัง ที่พุ่งชนรถพ่วง 22 ล้อ ที่วิ่งตัดหน้าบริเวณจุดตัดรถไฟ หมู่ 3 ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ (4 ก.ย.) ว่า หลังเกิดเหตุนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางลงพื้นที่พร้อมด้วยนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และคณะ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จริง
โดยได้รับการเปิดเผยจาก นายพิเชษฐ์ น้อยคำ พนักงานขับรถไฟซึ่งอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และมีแผลถลอกที่แขน และร่างกายว่า ตนได้ขับรถไฟออกจากสถานีแหลมฉบัง โดยมีเจ้าหน้าที่เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ 3 นายประจำการอยู่บริเวณหัวรถจักรด้านหน้า ส่วน นายประพันธ์ กิ่งโพธิ์ทอง พนักงานรักษารถไฟอยู่บริเวณท้ายขบวน
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถพ่วงยี่ห้อวอลโว่ สีขาว ของบริษัท MTS โปรเกรส แทรฟฟิค จำกัด หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 71-8623 ชลบุรี หมายเลขทะเบียนส่วนท้าย 70-9947 ชลบุรี ได้ขับแซงรถคันอื่นมาทางเลนขวา ก่อนจะเลี้ยวหลบแผงกั้นเพื่อข้ามทางรถไฟเป็นเหตุให้รถไฟพุ่งเข้าชนอย่างจังบริเวณล้อหลัง จนทำให้ส่วนท้ายของรถพ่วงที่บรรทุกปูนขาวกระเด็นตกข้างทาง ขณะที่ส่วนหัวรถพ่วงได้ไถลออกจากจุดเกิดเหตุไปไกลถึง 100 เมตร
โดยขณะเกิดเหตุรถไฟ วิ่งที่ความเร็ว 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหลังรถพ่วงถูกชนได้เสียหลักพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนักศึกษาโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่กำลังขี่ข้ามทางรถไฟ ก่อนจะพุ่งไปชนแผงกั้นทางได้รับความเสียหาย และคนขับรถพ่วงได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
รมว.คมนาคม เผยว่า หลังจากนี้จะต้องมีมาตรการในการจัดทำเหล็กกั้นรางรถไฟให้แข็งแรงกว่าที่เป็นอยู่ ป้องกันไม่รถยนต์ข้ามผ่านขณะรถไฟยังมาไม่ถึง และต้องกำหนดจุดกั้นให้ต่ำกว่าเดิม ป้องกันการลอดผ่านของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักถึงความปลอดภัยขณะข้ามทางรถไฟให้มากกว่านี้
