เลย - แกนนำชาวสวนยางปากชม อำเภอปากชม ลั่นพร้อมออกไปร่วมชุมนุมกดดันรัฐบาลที่ อ.สีคิ้วหากได้รับการประสานจากเพื่อนเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดอื่นภาคอีสาน เผยรับไม่ได้กับมาตรการช่วยเหลือ 1,260 บาท/ไร่ของรัฐบาล พร้อมตั้งข้อสังเกตบทบาทแกนนำสวนยางระดับจังหวัดที่ประกาศหยุดเคลื่อนไหวทั้งเกษตรกรสวนยางเดือดร้อนจริงๆ
นายเฉวียน กงสิมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากชม และเป็นหนึ่งกรรมการชาวสวนยางจังหวัดเลย กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางพาราในอำเภอปากชมหรือพื้นที่อำเภออื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจ เพราะยังไม่มันใจในกลไกช่วยเหลือของรัฐบาลที่เสนอจะช่วยค่าปุ๋ย 1,260 บาท/ไร่ และแต่ละรายจะได้รับความช่วยเหลือไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งเกษตรที่ปลูกยางพาราใน อ.ปากชม จ.เลย ส่วนมากไม่มีเอกสารสิทธิเพราะเป็นพื้นที่ป่าเขา ดังนั้น เท่ากับว่าชาวสวนยางพาราไม่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติเพราะไม่มีเอกสารสิทธิไปแสดง
“หากเพื่อนเกษตรกรชาวสวนยางในอีสานมีการนัดชุมนุมที่สีคิ้วเพื่อกดดันรัฐบาลเหมือนกับที่พี่น้องชาวปักษ์ใต้ชุมนุมอยู่ในขณะนี้ ผมขอเสนอตัวเป็นแกนนำเอง ผมพาพี่น้องที่ทำสวนยางในอำเภอปากชมกว่า 2,000 คนไปร่วมชุมนุม แค่ขอให้มีการประสานมาเท่านั้น” นายเฉวียนกล่าว และว่า
กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางอำเภอปากชมไม่มีการรับใบสั่งจากใครทั้งนั้น ทั้งขอให้หยุดเคลี่อนไหวชุมนุมหรือออกไปชุมนุมเป็นการตัดสินใจของพวกเราเอง ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรจริงๆ สำหรับแกนนำชาวสวนยางในจังหวัดเลย นั้นตอนนี้ถือว่าขาดความเชื่อถือ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีแกนนำบางคนไปรับปากตกลงกับผู้หลักผู้ใหญ่ว่าจะไม่พาชาวสวนยางออกไปเคลื่อนไหว ทั้งที่เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่จังหวัดเลยก็ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากพี่น้องชาวสวนยางภาคใต้เช่นกัน
นายเฉวียนกล่าวอีกว่า ไม่อยากให้รัฐบาลเอาใจช่วยเหลือแต่เกษตรกรที่ปลูกข้าว อยากให้หันมาดูเกษตรที่ปลูกยางพาราอย่างอย่างจริงจังบ้าง เพราะขณะนี้ภาคอีสานปลูกยางพาราจำนวนมาก เฉพาะที่จังหวัดเลย มีสวนยางพารามากกว่า 900,000 ไร่ และในปีหน้าน่าจะถึง 1 ล้านไร่ แต่สวนมากจะไม่มีเอกสารสิทธิเพราะจังหวัดเลยเป็นพื้นที่สูงจึงไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ จึงไม่เข้าเกณฑ์โครงการช่วยเหลือของรัฐบาล
นายเฉวียนกล่าวย้ำอีกว่า หากมีจังหวัดไหน กลุ่มไหนในภาคอีสานที่พร้อมจะออกไปชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำเหมือนภาคใต้ให้ประสานงานมาหาตนได้ แม้ที่นครราชสีมา หรือจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานจะไม่เคลื่อนไหว แต่จังหวัดเลยที่อำเภอปากชมก็จะเดินทางไป เพราะชาวสวนยางพาราที่ปากชมกว่า 3,000 คนเดือดร้อนจริงๆ โดยขณะนี้ได้มีการรวบรวมเงินเพื่อเดินทางได้แล้วกว่า 300,000 บาท ซึ่งบางกลุ่มถึงกับขายขี้ยางมาสมทบเป็นค่าใช้จ่ายเดินทาง