ศูนย์ข่าวศรีราชา - การปรับขึ้นราคาก๊าซหุ้งต้มของรัฐบาลเริ่มกระทบต่อผู้ค้าก๊าซหุงต้มในจังหวัดตราด และประชาชนที่หาเช้ากินค่ำแล้ว เหตุต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ค้าอาหารที่ต้องแบกรับต้นทุนจากการซื้อก๊าซ 27-30 บาทต่อถัง วอนรัฐเร่งให้การช่วยเหลือ
นายอนุสิทธิ พิริระไพบูลย์ เจ้าของร้านป็อปแก๊ส ผู้ค้าปลีกก๊าซหุงต้ม ตั้งอยู่บริเวณตลาดองค์การ อ.บ่อไร่ จ.ตราด เผยว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซของรัฐบาลอาจทำให้ยอดขายต่อวันมีจำนวนลดลง ทั้งนี้ ในแต่ละวันตนจะนำถังก๊าซหุงต้มออกขายใน อ.บ่อไร่ ประมาณ 80-90 ถังต่อวัน และแต่ละถังจะบวกกำไร และค่าขนส่งประมาณถังละ 30-40 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางการขนส่ง และน้ำหนักของถังว่ามีขนาดเท่าใด
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จำหน่ายก๊าซต่อถังขนาด 15 กก.ในราคา 300 บาท แต่หลังจากวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นมา ต้องปรับราคาขายสูงขึ้นเป็นถังละ 308 บาท และเมื่อรวมกับค่าขนส่งก็จะมีราคาต่อถังที่ 338 บาท ส่วนถังก๊าซที่มีน้ำหนัก 48 กก.เดิม จำหน่ายที่ถึง 946 บาท แต่หลังวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นมาได้ปรับราคาขึ้นเป็นถังละ 970 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับค่าขนส่งก็จะมีราคาสูงถึง 1,000 บาท
“ในฐานะผู้ค้าปลีกเมื่อราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้น ก็ย่อมได้รับผลกระทบเรื่องยอดขายบ้าง เนื่องราคาก๊าซสูงขึ้นประมาณ 27-30 บาทต่อถัง โดยผู้บริโภคครัวเรือนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนผู้ประกอบอาหารขายก็จะต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้นเช่นกัน” นายอนุสิทธิ กล่าว
เช่นเดียวกับผู้บริโภครายหนึ่งที่กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายครัวเรือนขณะนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 200-300 บาทต่อเดือน จึงอยากวอนให้ภาครัฐหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มด้วย