ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หอค้าเชียงใหม่เสนอยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด รองรับการพัฒนาเมือง ก้าวสู่ “มหานครเชียงใหม่” แจงเริ่มต้น 3 แผนงาน “ท่องเที่ยว-ศูนย์กลางสุขภาพ-เมืองคู่มิตร” ตั้งเป้าเชื่อมโยงอนุภูมิภาค เล็ง “มัณฑะเลย์” นำร่อง ด้าน ปธ.หอการค้าชี้ อนาคตเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางหลายด้าน ต้องวางแผนระยะยาวรองรับ
วันนี้ (2 ก.ย.) นายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาเชียงใหม่เพื่อก้าวสู่การเป็น “มหานครเชียงใหม่” ที่หอการค้าจังหวัดนำเสนอที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จังหวัดเชียงใหม่ และการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของจังหวัดที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางหลายด้านของอนุภูมิภาค ไม่ว่าการท่องเที่ยว บริการสุขภาพ หรือการศึกษา ซึ่งนำมาสู่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รองรับประชากรและความเจริญที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายเฉลิมชาติกล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ของหอการค้าจังหวัดจะมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้าพาณิชย์ และถนนเศรษฐกิจ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพในอนาคต ซึ่งโครงการที่เตรียมผลักดันได้แก่ การพัฒนาย่านไชน่าทาวน์ ถนนฮาลาล ยกระดับย่านท่องเที่ยวอย่างถนนวัดเกต และถนนนิมมานเหมินท์ การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยววัฒนธรรมอุทยานเมืองเก่าสี่เหลี่ยมคูเมือง หรือโครงการวิถีชุมชนการค้าริมฝั่งแม่น้ำปิง เป็นต้น
2. การพัฒนาเป็นศูนย์กลางสุขภาพเพื่อรองรับชาวไทยและต่างประเทศที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ จ.เชียงใหม่ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เน้นการดูแลรักษา ได้แก่ พัฒนาเมืองเชียงใหม่เพื่อส่งเสริมความสุขและพัฒนาวิถีชีวิต โครงการพัฒนาศูนย์สารสนเทศธุรกิจสุขภาพ ให้บริการข้อมูลแก่ผู้พำนักระยะยาวหลังเกษียณอายุ โครงการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพผู้สูงอายุ โครงการด้านอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
3. แผนงานสร้างความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์กับเมืองคู่มิตรในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ด้วยการเตรียมเสนอโครงการนำร่องสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง จ.เชียงใหม่ กับเมืองมัณฑะเลย์ สหภาพเมียนมาร์ เนื่องจากเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน และยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่การท่องเที่ยวของเมียนมาร์ได้ โดยจะมีทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว จัดสายการบินตรง และระบบลอจิสติกส์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการ เป็นต้น
นายเฉลิมชาติกล่าวว่า หอการค้านำเสนอยุทธศาสตร์ต่อ กรอ.และ กกร. เนื่องจากเห็นว่าภาคเอกชนควรเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาเมืองควบคู่กับภาครัฐและภาคส่วนอื่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการที่เชียงใหม่จะเป็นมหานครในอนาคต อีกทั้งจากแนวทางการพัฒนาจังหวัดของรัฐบาล ทั้งจากแนวคิดการเป็นศูนย์กลางหลายด้าน และการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แสดงให้เห็นว่าเชียงใหม่จะมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศและอนุภูมิภาคอย่างมากในอนาคต และจะนำมาสู่การเพิ่มขึ้นของประชากรอีกเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การเตรียมการรับมือจึงไม่ควรคิดแค่ระยะสั้น แต่จะต้องวางแผนระยะยาว 10-20 ปี ทั้งการรองรับผู้คนที่เพิ่มขึ้น ระบบคมนาคม ขนส่ง และความเติบโตของเมืองที่จะตามมาหลังโครงสร้าง เช่น สนามบินแห่งใหม่ หรือรถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จ เพราะหากไม่มีแผนรองรับที่เหมาะสมจะทำให้เชียงใหม่สูญเสียศักยภาพการแข่งขัน
ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและย่านการค้าที่เคยมีชื่อเสียงหลายแห่ง เพราะปัจจุบันอาจอยู่ในภาวะซบเซา จึงต้องหาทางส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่วนการเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพจะสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เชียงใหม่เป็นที่พำนักสำหรับผู้สูงอายุทั้งใน และต่างประเทศ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นได้อีก ขณะที่การสร้างความเชื่อมโยงกับเมืองคู่มิตร ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเมียนมาร์กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน และมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคในอนาคต จึงจำเป็นที่เชียงใหม่ต้องมีความเชื่อมโยงกับเมียนมาร์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ต่อไปในอนาคต