ตร.อุดรฯ รวบยกแก๊งลัก จยย.แลกยาบ้าจากนายทุนใหญ่ชาวลาว

อุดรธานี - ตำรวจอุดรฯ รวบแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์แลกยาบ้าได้ยกแก๊ง พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด เผยมีชาวลาวเป็นนายทุนใหญ่

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (2 ก.ย.) ที่หน้าชุดสืบสวนสอบสวนชุดพิรุณ สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช รอง ผกก. พ.ต.ท.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์แลกยาบ้าทั้งหมด 5 คน

ประกอบด้วย นายนิรันดร์ วะดวงดี อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 34/4 ม.10 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หัวหน้าแก๊ง นายอุดร วะดวงดี อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 396/3 ม1 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายวิโรจน์ ทุมสี อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 34 ม.8 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายนิคม น้อยลา อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 59 ม.8 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และ น.ส.นันทิยา น้อยลา อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 59/1 ม.7 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางเป็นยาบ้า 2,000 เม็ด รถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บต 875 อ่างทอง รถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เทา ทะเบียนเลข บฉ 5572 และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก 5 คัน โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยบ้านดงอุดม ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี

พ.ต.อ.โกวิท เปิดเผยว่า การจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ว่า ที่ผ่านมา มีคนร้ายโจรกรรมลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้านรุ่นคลิกมากเป็นที่ผิดสังเกต จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนชุดพิรุณ สภ.เมืองอุดรธานี ทำการสืบสวนสอบสวน

จากการสืบสวนทราบว่า แก๊งดังกล่าวซึ่งมี นายนิรันดร์ วะดวงดี เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยใช้พื้นที่จังหวัดอุดรธานี ในการปฏิบัติการเช่า-ชื้อรถจักรยานยนต์ แล้วนำเอาไปแลกกับยาบ้า เมื่อได้รถแล้วก็จะนำเอารถไปส่งมอบให้แก่นายทุนคนลาวในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เพื่อส่งข้ามไปขายที่ประเทศ สปป.ลาว ต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางแผนจับกุมแก๊งนี้ โดยให้สายลับทำการติดต่อไปยัง นายนิรันดร์ ว่า มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยขอแลกเปลี่ยนกับยาบ้า 2,000 เม็ด นายนิรันดร์ ขอเพิ่มเงินอีก 120,000 บาท เพราะรถจักรยานยนต์ 1 คัน สามารถแลกยาบ้าได้ 200 เม็ดเท่านั้น จากนั้นได้นัดส่งมอบของกันที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยดงอุดม

เมื่อถึงเวลานัดหมาย มีรถยนต์กระบะ อีซูซุ ทะเบียน บฉ 5572 โดยมีนายยิรันดร์ ขับเข้ามาจอดที่ปากซอย โดย น.ส.นันทิยา และนายอุดร นั่งมาในรถยนต์ด้วย ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นมีรถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน บต 875 อ่างทอง มีนายวิโรจน์ เป็นคนขับ และมีนายนิคม นั่งมาด้วย ขับมาจอดใกล้ๆ กับรถของนายนิรันดร์

จากนั้น นายนิรันดร์ เปลี่ยนไปขับรถอีซูซุ ทะเบียน บต 875 อ่างทอง โดยมี นายอุดร นั่งมาด้วย โดยให้ น.ส.นันทิยา นายนิคม นั่งรอที่ร้านอาหารหน้าปากซอย

นายนิรันดร์ ได้ขับรถเข้าไปยังบ้านเช่าไม่มีเลขที่ซึ่งเป็นจุดนัดหมาย เพื่อที่จะตรวจสภาพของรถ โดยมีรถจักรยานยนต์ที่ใช้ล่อซื้อจอดอยู่อีก 3 คัน รวมเป็น 5 คัน เมื่อตรวจสภาพรถแล้ว นายนิรันดร์ เดินไปหยิบยาบ้ามาให้สายลับตรวจสอบ ซึ่งเมื่อสายลับยืนยันว่าเป็นยาบ้า และบอกแก่ นายนิรันดร์ ว่าจะไปกดเงินจำนวน 120,000 บาท ตามที่ตกลงกันเอามาให้

ซึ่งเป็นสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้เข้าทำการจับกุม ในขณะที่นายนิรันดร์ และนายอุดร กำลังจะขนรถขึ้นบนท้ายกระบะ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัว นายวิโรจน์ น.ส.นันทิยา และนายนิคม ที่นั่งรออยู่ที่ร้านอาหารหน้าปากซอยเช่นกัน

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยนายนิรันดร์ ให้การว่า ยาบ้านั้นตนได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง นางตุ้ม ที่เป็นคนลาว ให้นำยาบ้าข้ามฝั่งมาส่งโดยนำเอาไปวางไว้ตามจุดต่างๆ จากนั้นก็จะโทรศัพท์ไปแจ้งให้นายนิรันดร์ ทราบ

ซึ่งนายนิรันดร์ จะให้ นายวิโรจน์ และนายนิคม ไปรับยาบ้าเพื่อที่จะนำเอายาบ้าไปแลกกับรถโดย นายนิรันดร์ และพวกจะทำหน้าที่ขับรถกระบะนำหน้า เพื่อตรวจสอบเส้นทางว่าสะดวกหรือไม่ หากว่ามีการตั้งด่านหรือผิดปกติ ก็จะโทรศัพท์บอกนายวิโรจน์ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง หรือหลบหนีไป

หลังจากที่ได้มีการนำเอายาบ้าไปแลกกับรถแล้ว ก็จะนำรถไปส่งมอบให้แก่ นางตุ้ม ซึ่งเป็นนายทุนคนลาวที่ริมแม่น้ำโขงในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม โดยนายทุนจะมอบเงินค่าจ้างให้แก่นายนิรันดร์ มาส่วนหนึ่ง แล้วนายนิรันดร์ จะมาจ่ายให้แก่คนในแก๊งคนละ 5,000 บาท ต่อการทำงาน 1 ครั้ง