อุดรธานี - ตำรวจอุดรฯ จับแก๊งชาวลาวส่งยาบ้า 2 แสนเม็ด มูลค่า 21 ล้านบาท และยาไอซ์ 1 กิโลกรัม อ้างถูกหลอกเพราะมีเสี่ยชาวลาวจ้าง3หมื่นให้มารับเงินจากฝั่งไทยเพื่อนำไปลงทุนทำสวนยางพารา
วันนี้ (21พ.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประกอบด้วย นายคราม จันสุริมาด อายุ 40 ปี นางวันมณี จันสุริมาด อายุ 30 ปี นางกันหา ดวงไกรสร อายุ 36 ปี และนางพันนา ดวงไกรสรอายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 200,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม พร้อมของกลาง รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทาดำ 1 คัน
พ.ต.อ.กริช ปัตลา ผกก.สส.1 กอง 3 บชภ.4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาบ้าในเขตภาคอีสาน พร้อมขยายผลการค้ายาจนทราบว่ากลุ่มผู้ค้ายามีใครบ้าง จึงได้ทำการสั่งซื้อยาบ้าจากชาวลาวจำนวน 2 แสนเม็ด มูลค่า 21 ล้านบาท โดยนัดส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณริมน้ำโขง จ.นครพนม แต่เนื่องจากจำนวนเงินมาก จึงได้ให้นัดหมายส่งยาในเขต ตัวเมืองอุดรธานี
พอถึงเวลานัดหมายทางนายคราม ชาวลาว ได้มาพบที่บริเวณ อุดรรีสอร์ต เพื่อขอดูเงินซึ่งเมื่อเห็นเงินแล้วได้โทร.บอกคนลาวอีก 1 คน ให้นำยาบ้าและยาไอซ์ไปส่งที่ทรายทองรีสอร์ต บริเวณถนนอุดรฯ- สกลนคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปเพื่อจะจับกุม แต่พบเพียงกระเป๋าเดินทางสีดำ ซึ่งจากการตรวจสอบด้านในพบ ยาบ้า 200,000 เม็ดและยาไอซ์อีก 1 กิโลกรัม จึงได้ควบคุมตัวนายครามและพวกมาที่ ชุดสืบสวนภูธรภาค 4 กอง3 อุดรธานี เพื่อทำการสอบสวนต่อ
จากการสอบสวน นายครามให้การว่า มีเสี่ยชื่อ โต้ง ชาวลาว เจ้าของสวนยางและไร่มันสำปะหลัง ได้ว่าจ้างให้ตนมารับเงินจำนวน จำนวน 5 ล้านบาท โดยจะได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท ซึ่งนายโต้งบอกว่าเงินจำนวนนี้จะนำไปลงทุนซื้อที่ดินเพื่อทำสวนยางพารา จากนั้นก็ถูกจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ การแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้นำตัวผู้ต้องหาจากการกวาดล้างอาชญากรรม ของเดือนพฤษภาคม 2556 ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งผลการระดมกวาดล้างสรุปมีดังนี้ ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ 3 ราย ผู้ต้องมีอาวุธปืน 2 ราย ผู้ต้องหาเสพยาเสพติด 20 ราย