นครปฐม - รอง ผบ.ตร. พร้อม ผบช.ภ.7 รอง ผบช. และ ผบก.นครปฐม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมแปลงบัตร เพื่อโกงเงินในธนาคารโดยได้เงินไปกว่า 8 แสนบาท หลังรวบตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย ยังหลบหนีอีก 1 ราย
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่ตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วยชุด กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 ได้แถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมแปลงบัตรเพื่อโกงเงินในธนาคารโดยได้เงินไปกว่า 8 แสนบาท
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่ามีคนร้ายได้ปลอมแปลงเอกสารอ้างตัวเป็นเจ้าของบัญชีแล้วทำธุรกรรมกับธนาคาร เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีของ นายณัฐธวัฒน์ ฉัตรวิริยะกุล จำนวน 8 แสนบาท หลังเกิดเหตุจึงได้มีการสั่งการให้เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ จนสามารถสืบทราบว่า กลุ่มขบวนการนี้มีผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายฉัตรชัย หรือปอนด์ สมบูรณ์บัติ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/1 หมู่บ้านสระแก้ววิลล์ ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม และนายสุดเขต หรือเล็ก ศิริรังสี อายุ 40 ปี ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับไว้แล้ว โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม ร่วมกันฉ้อโกง”
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ในการสืบสวนแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบพฤติกรรมของคนร้าย ซึ่งมี 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 กลุ่มผู้ต้องหาได้ข้อมูลเครดิต (เลข 16 หลัก หน้าบัตร และเลขรหัส 3 หลัก) ขั้นตอนที่ 2 ปลอมเอกสารที่ต้องการแล้วนำมาสมัคร (E Bangking) ของนายณัฐธวัช ฉัตรวิรยะกุล ทางอินเทอร์เน็ต แล้วนำหลักฐานไปปลอมไปแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการใช้รับรหัสการโอนเงินกับธนาคารซึ่งคนร้ายต้องไปแสดงตัวเป็นเจ้าของบัญชีเอง ขั้นตอนที่ 3 คนร้ายจะโอนเงินทางอินเทอร์เน็ตจากบัญชีเจ้าของตัวจริง ไปยังบัญชีบุคคลที่ 3 จากนั้นก็ให้บุคคลที่ 3 ถอน หรือโอนเงินมาให้คนร้าย นำเงินไปแบ่งกันและแยกย้ายหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวไปจับกุมนายฉัตรชัย ได้เมื่อวันที่ 28 ส.ค.56 เวลาประมาณ 21.00 น. ส่วนนายสุดเขต หลบหนี อยู่ระหว่างติดตามจับกุมต่อไป