xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอชี้ “พีซีซี” ปลอมลายเซ็นนายตำรวจ 1,500 นาย ทุจริตเบิกจ่ายเงินสร้างโรงพัก 396 แห่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดีเอสไอ แฉ บ.พีซีซีฯ ปลอมลายเซ็น ตร.กว่า 1,500 นาย ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจการจ้างสถานีตำรวจทดแทนไปขอกู้เงินธนาคารออมสินกว่า 579 ล้านบาท

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 ก.ค.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ (ระดับ 9) ดีเอสไอ แถลงถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่ง มูลค่ากว่า 5,848 ล้านบาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หลังดีเอสไอสอบสวนพบอีกว่า บริษัท พีซีซีฯ ได้ปลอมเอกสารตรวจรับงานของคณะกรรมการตรวจรับงานนำไปเป็นหลักทรัพย์กู้เงินกับธนาคารออมสิน สาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ มูลค่ากว่า 579 ล้านบาท จึงเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงธนาคารออมสิน กับบริษัท พีซีซีฯ

พ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า ​ สืบเนื่องจากธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอให้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีฉ้อโกงเงินกว่า 579 ล้านบาท ของธนาคารออมสิน สาขาประตูช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2554-2555 จากการสอบสวนพบว่า บริษัท พีซีซีฯ ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ สตช.ในโครงการการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน ได้นำเอาสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน วงเงิน 5,848 ล้านบาท มาขอกู้เงิน (โอดี) กับธนาคารออมสิน เพื่อใช้หมุนเวียนในการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน วงเงินกู้ 600 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขการปล่อยเงินกู้ของธนาคารออมสินได้จะต้องมีเอกสารรายงานผลการตรวจงานจ้างเหมาก่อสร้างของคณะกรรมการตรวจการจ้างของสถานีตำรวจแต่ละแห่งมาประกอบ ซึ่งบริษัท พีซีซีฯ ได้นำเอกสารผลการตรวจงานเข้ายื่นขอกู้เงินจนธนาคารออมสินหลงเชื่ออนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัท พีซีซีฯ และยังไม่ได้รับเงินต้นคืน

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กล่าวอีกว่า ต่อมาธนาคารออมสินได้ตรวจสอบเอกสารรายงานผลการตรวจงานจ้างเหมาก่อสร้างทั้งหมดของบริษัท พีซีซีฯ พบว่ามีการปลอมข้อความทั้งหมด โดยมีการปลอมลายมือชื่อเจ้าพนักงานตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจการจ้างสถานีตำรวจทดแทนแต่ละแห่งเกือบทั่วประเทศ จำนวน 362 หลัง ประมาณ 1,500 นาย โดยมีการปลอมลายเซ็นทั้งระดับผู้การ พล.ต.ต.และ พ.ต.อ.บางแห่งมีการปลอมเอกสารตรวจการจ้าง ตั้งแต่งวดที่ 1-12 ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของสถานีตำรวจที่ก่อสร้าง มีการปลอมลายเซ็นของคณะกรรมการตรวจการจ้างรวมประมาณ 2,800 งวดงาน ทั้งๆ ที่โรงพักแต่ละแห่งก่อสร้างได้เพียงเล็กน้อย หรือบางแห่งยังไม่มีการก่อสร้างเลย ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ สอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระยะหนึ่งในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2, ภาค 4 และภาค 6 เกือบ 200 ปาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกรรมการตรวจการจ้างทุกคนต่างยืนยันว่า ถูกปลอมลายมือชื่อ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของบริษัท พีซีซีฯ ซึ่งทั้งหมดได้แจ้งความร้องทุกข์กับดีเอสไอแล้ว

พ.ต.ท. ถวัล กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้เสียหายประกอบการดำเนินคดีกับบริษัท พีซีซีฯ กับพวก ในความผิดอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกง ปลอมเอกสารสิทธิ อันเป็นเอกสารราชการ และใช้เอกสารที่ปลอม โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนอีกคดีหนึ่ง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 266 และ 341 มีอัตราโทษขั้นสูง จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท การกระทำผิดครั้งนี้เป็นความผิดต่างวัน ต่างเวลา ต่างสถานที่เกิดเหตุ ต่างผู้เสียหาย การปลอมลายมือชื่อเจ้าพนักงานตำรวจได้นำเอกสารปลอมไปใช้อ้างในแต่ละงวดงาน โดยผู้กระทำมีเจตนาทำเอกสารที่ปลอมขึ้นไปหลอกลวงแก่ธนาคารเป็นรายฉบับ เป็นความผิดแยกออกจากกัน จึงเป็นความผิดสำเร็จในตัวต่างกรรมต่างวาระกัน ผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทุกๆ กรรมเป็นรายกระทงความผิดไป รวม 2,800 กระทง

นายธาริต กล่าวว่า สำหรับคดีการก่อสร้างสถานตำรวจทดแทน 396 แห่ง ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีก่อสร้างโรงพักทดแทน ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีผู้เกี่ยวข้องคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 13, 11 และ 12 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดย ป.ปช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนคดีฉ้อโกงผู้รับเหมาช่วงของบริษัท พีซีซีฯ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องแล้วเช่นเดียวกัน และในวันที่ 26 ก.ค.ดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัท พีซีซีฯ และผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 8 เป็นคดีที่สอง ส่วนคดีที่สาม กรณีฉ้อโกงธนาคารออมสินโดยการปลอมเอกสาร จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป พร้อมจะทำหนังสือรายงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น