xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านจี้จังหวัดฯ ช่วยด่วน-นายทุนฮุบที่สาธารณะ ฮึดสู้ถูกฟ้องติดคุกแล้ว 2 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวเวียงเชียงรุ้งหลายหมู่บ้านรวมตัวขึ้นศาลากลางฯ ร้องจังหวัดช่วยแก้ปัญหากรณีพิพาทข้ามทศวรรษ หลังนายทุนเข้าครอบครองที่สาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันมานาน เผย ป.ป.ป. (ขณะนั้น) มีมติเพิกถอนแล้วเรื่องยังไม่คืบ แถมถูกนายทุนฟ้องติดคุก 2 รายแล้ว

วันนี้ (29 ส.ค.) ชาวบ้าน ม.1 ม.2 ม.3 ม.5 ม.11 และ ม.12 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ประมาณ 200 คน ได้รวมตัวชุมนุมกันที่ศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อเรียกร้องให้จังหวัดช่วยเหลือกรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน “ขุนน้ำห้วยแม่ซ้าย” เนื้อที่รวมประมาณ 6,314 ไร่ ระหว่างเอกชนที่เข้าไปถือครองที่ดินเพื่อทำประโยชน์กับกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันทางด้านการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ มาตั้งแต่บรรพบุรุษ

จากนั้นนายอุทธา นัยติ๊บ ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 นายภาสกร นัยติ๊บ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 นายอุดร พงษ์รักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 นายสงกรานต์ โสภามา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดงมหาวัน ฯลฯ แกนนำชาวบ้าน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายมนัส โสกันธิกา รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ที่เข้ารับเรื่อง มีเนื้อหาว่า ชาวบ้านใช้ประโยชน์ในพื้นที่ร่วมกันมาตั้งแต่ตั้งรกราก ต่อมาปี 2533 มีกลุ่มทุนเข้าถือครองพื้นที่เป็น น.ส.3 ก. เมื่อปี 2536 ชาวบ้านได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ป. (ในขณะนั้น) และทาง ป.ป.ป.มีมติเมื่อปี 2538 ให้เพิกถอน น.ส.3 ก. แต่จนถึงปัจจุบันหน่วยงานราชการที่ควรจะปฏิบัติตามมติของ ป.ป.ป.ก็ยังไม่สามารถเพิกถอนสิทธิของเอกชนได้

นายสงกรานต์กล่าวว่า ที่ดินผืนนี้เป็นที่สาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์มานาน เมื่อเกิดปัญหาเอกชนเข้าไปถือครอง ทาง ป.ป.ป.ก็มีมติให้เพิกถอน น.ส.3 ก.ในเขต ต.ดงมหาวัน 31 แปลง เขต ต.ป่าซางจำนวน 27 แปลง ต.ทุ่งก่อ 83 แปลง รวมทั้งหมด 141 แปลง แต่จากนั้นก็ไม่มีความคืบหน้าเพราะเอกชนก็ยังใช้ประโยชน์อยู่

“ผ่านมากว่า 18 ปีแล้วตั้งแต่ ป.ป.ป.มีมติแต่เรื่องก็ไม่คืบหน้า ทั้งชาวบ้านยังถูกนายทุนแจ้งความดำเนินคดีอีกหลังเข้าไปสำรวจพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ที่ดินจังหวัด ฯลฯ ปัจจุบันถูกตัดสินให้จำคุกแล้ว 2 ราย รายละ 5-6 ปี และหลายคนก็ถูกฟ้องร้องกันอยู่ ดังนั้นจึงขอให้จังหวัดในฐานะดูแลปัญหาที่ดินของชาวบ้านได้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้ยืดเยื้อจนพ้น 20 ปี ก็จะกลายเป็นเรื่องหมดอายุความไป”

ต่อมานายมนัสได้นำตัวแทนกับชาวบ้านเข้าประชุม โดยนายบุณยศักดิ์ ปงกาวงค์ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.เชียงราย สาเวียงชัย ซึ่งดูแลพื้นที่ร่วมชี้แจงให้ข้อมูลแก่ชาวบ้านว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล.เมื่อปี 2521 จากนั้นมีการรังวัดในปี 2542 แต่ต่อมาเกิดกรณีปัญหาร้องเรียนกันเรื่อยมาจนถึงขั้นคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ทางสำนักงานที่ดินจึงเข้าไปสำรวจรังวัดอีกครั้งเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2556 ที่ผ่านมา แต่พบว่ารูปแผนที่ไม่ตรงกับเขตการปกครองจึงไม่สามารถชี้ตำแหน่ง และไม่มีการทำแผนที่ ขณะนี้กรมที่ดินกำลังให้จัดทำแผนที่ทับซ้อนอยู่

ขณะที่ชาวบ้านระบุว่า ตอนที่สำนักงานที่ดินเชิญไปร่วมชี้แนวเขตเพื่อรังวัดใหม่เมื่อเดือน ก.พ. 56 ที่ผ่านมา ชาวบ้านก็ชี้ไปที่จุดเดิมตรงกับแผนที่ปี 2521 และปี 2542 แต่พอแผนที่ของสำนักงานที่ดินออกมากลับเป็นแบบใหม่ที่ไม่ตรงกับจุดที่ชาวบ้านชี้ จนปัญหายืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันเพราะสำนักงานที่ดินระบุว่ารูปแผนที่ไม่ตรงกันดังกล่าว และเอกชนก็ถือครองใช้ประโยชน์เรื่อยมา

ท้ายที่สุดนายมนัสได้สรุปให้ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.ดงมหาวัน ฯลฯ ทำเอกสารยืนยันแผนที่ตามรูปแบบให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า โดยทางจังหวัดจะสั่งการไปยังอำเภออีกชั้นหนึ่ง จากนั้นอีก 2 สัปดาห์ทางจังหวัดก็จะนำมาพิจารณาตามคำยืนยันดังกล่าว และคาดว่าน่าจะเพิกถอน น.ส.3 ก.ดังกล่าวได้ราววันที่ 9-13 ก.ย. 56 นี้

นายมนัสชี้แจงว่า เหตุที่เรื่องนี้ยืดเยื้อมายาวนานเพราะต้องนำแผนที่ที่เป็น นสล.เดิมและแผนที่ใหม่ที่อ้างว่าเป็น น.ส.3 ก.มาทับกัน นอกจากนี้ชาวบ้านบางคงยังถูกสวมชื่อขอออก น.ส.3 ก.โดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องด้วย ทำให้ต้องตรวจสอบหลายขั้นตอน เช่นเดียวกับพื้นที่หนองน้ำใน อ.แม่จัน ก็มีการนำรายชื่อชาวบ้านไปออกเป็น น.ส.3 ก.แต่ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง

นายมนัสกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องทำงานรอบคอบ ฟ้องกันปัญหาฟ้องร้องตามมา ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งจังหวัดและเจ้าพนักงานที่ดินฯ ถูกเอกชนฟ้องร้องเรื่องที่ดินแล้วร่วม 300 คดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 20,000 ล้านบาท แต่ยืนยันว่าการเพิกถอนกรณี อ.เวียงเชียงรุ้งต้องเกิดขึ้นแน่แต่ต้องใช้เวลา




กำลังโหลดความคิดเห็น