xs
xsm
sm
md
lg

ชาวกาฬสินธุ์ร้อง ถนนพังกลายเป็นทะเลโคลน ลุยปักดำข้าวประจาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมชาวบ้านในต.สงเปลือย กว่า 100 คน นำต้นข้าว ต้นกล้วย ต้นมะละกอ ไปปลูกบนถนนเชื่อมต.สงเปือย อ.เขาวง กับต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาซ่อมแซม
กาฬสินธุ์ - ชาวบ้าน 16 หมู่บ้านใน ต.สงเปลือย อ.เขาวง โวยถนนเชื่อมหมู่บ้านเข้าอำเภอยาว 7 กม.ชำรุดนาน 30 ปี เละเป็นทะเลโคลน หน้าแล้งฝุ่นตลบสัญจรไม่ได้ แฉเป็นถนนในความรับผิดชอบของ อบจ. สุดอนาถคนเจ็บส่งโรงพยาบาลไม่ทันถึงตายหลายราย สุดทนแห่ปักดำข้าว ปลูกต้นไม้ประจาน

วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านหนองแสง บ้านหนองหญ้าโยน และบ้านดอนสวรรค์ ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กว่า 100 คน นำต้นข้าว ต้นกล้วย ต้นมะละกอ และต้นไม้ต่างๆ ไปปักดำและปลูกบนถนนเชื่อมระหว่าง ต.สงเปือย ไปยัง ต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ ระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร เพื่อประจานและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมถนนสายดังกล่าว

หลังจากถนนสายนี้พังเสียหายและเต็มไปด้วยดินโคลนตลอดเส้นทาง ส่งผลให้ชาวบ้านทั้ง 16 หมู่บ้านใน ต.สงเปือยสัญจรไปมายากลำบาก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนรถทุกชนิดไม่สามารถใช้ถนนสายดังกล่าวได้ ส่วนหน้าแล้งมีแต่ฝุ่น สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ชาวบ้านระบุว่าเคยร้องขอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และทางอำเภอ แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ชาวบ้านต้องทนลำบากในการเดินทางมานานร่วม 30 ปี มีเพียง อบต.สงเปือยที่เข้ามาซ่อมแซมในปี 2555 งบประมาณ 1,997,000 บาท แต่ก็นำเอาดินเหนียวมาเท ยิ่งทำให้ถนนเละเทะมากกว่าเดิม

นายสุรพล ศรีมุล ผู้ใหญ่บ้านหนองหญ้าโยน กล่าวว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมานาน 30 ปี เพราะผู้รับผิดชอบไม่สนใจแก้ไข ทั้งที่เป็นถนนสายหลัก และเป็นเส้นทางลัดของชาว ต.สงเปลือย ไปยัง ต.นาโก ต้องใช้เพื่อไปไร่นา และนำสินค้าทางการเกษตรไปขายในตัวอำเภอกุฉินารายณ์

ที่ผ่านมานอกจากต้องสัญจรด้วยความยากลำบากแล้ว ยังส่งผลให้เด็กนักเรียนไปเรียนหนังสือไม่ทัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนรถจะติดโคลนลึกถึง 1 ฟุต ซึ่งเกิดจากความมักง่ายที่นำดินโคลนมาเทแทนลูกรัง คนป่วยบางรายถึงกับเสียชีวิตเนื่องจากรถติดหล่มนำตัวส่งโรงพยาบาลไม่ทัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาด้วย

ด้านนายบุญเลื่อน หาศิริ ชาวบ้านหนองหญ้าโยน กล่าวว่า ชาวบ้านสุดที่จะทนเพราะทนมานานกว่า 30 ปีแล้ว จึงร่วมกันนำต้นข้าว และต้นไม้มาปลูกเพื่อประจานและประชดหน่วยงานที่รับผิดชอบ เนื่องจากชาวบ้านได้เคยร้องขอไปหลายครั้ง แต่แทบจะทุกครั้งจะนำเพียงดินเหนียวเข้ามาปรับปรุง และใช้รถเกรดเท่านั้น ไม่มีการบดอัด แต่ใช้งบประมาณหลายล้านบาท จึงต้องการให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณด้วย

ขณะที่นายจันทคาด ขันศรี นายก อบต.สงเปือย กล่าวว่า ยอมรับว่าสภาพถนนในปัจจุบันสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา อบต.ทำได้เพียงเข้าไปปรับปรุง บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากถนนสายนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อบต.ได้ตั้งงบประมาณไว้ 400,000 บาทเพื่อซ่อมแซมแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าฝน หากเข้าไปปรับปรุงก็จะยิ่งทำให้พังเสียหายมากกว่าเดิม




กำลังโหลดความคิดเห็น