สิบแปดล้อเบียดปิกอัพพลิกคว่ำตีลังกาหลายตลบ หวิดตายหมู่

มหาสารคาม - เกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพถูกท้ายรถพ่วงสิบแปดล้อสะบัดมาชนทำให้เสียหลักตกลงข้างทาง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.) ศูนย์วิทยุมหาชัย สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพพลิกคว่ำลงข้างทางที่บริเวณถนนสายมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด ก่อนถึงบ้านเชียงเหียนประมาณ 500 เมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย

จากนั้นได้แจ้ง พ.ต.ท.สมพงษ์ อุดมเดช ร้อยเวร สภ.เมืองมหาสารคาม หน่วยกู้ภัยจีเสียงเกาะ หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลมหาสารคาม กู้ชีพโรงพยาบาลไทยอินเตอร์เนชั่นแนล หน่วยกู้ภัยเทพนิมิตร กู้ภัย อบต.เขวา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองมหาสารคาม ให้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน บพ 3903 เชียงราย พลิกตะแคงอยู่ร่องกลางถนน สภาพรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ด้านห้องเครื่องมีคราบน้ำมันเครื่องกระจายเต็มพื้นถนน สัมภาระหล่นกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 6 ราย ในจำนวนนี้มีติดอยู่ภายในรถ 1 ราย

เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือตัดถ่างช่วยเหลือออกมา ทราบชื่อภายหลังคือ นายบุญถม อ่อนแก้ว อายุ 56 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายคือหญิงไทย ไม่ทราบชื่อ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมี 4 ราย ประกอบด้วย นางสาวสุวนันท์ สายชมพู อายุ 16 ปี นางคำฟอง บุญชิด อายุ 46 ปี นางคำเสร็จ ทองดา อายุ 55 ปี และนางบัวลม บุญยา อายุ 58 ปี ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม และโรงพยาบาลไทยอินเตอร์เนชั่นแนล

นางบัวลม บุญยา ผู้โดยสารที่มากับรถที่เกิดเหตุ เล่าว่า เดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานีจะไปจังหวัดอุดรธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายบุญถม คนขับรถ ได้เปิดไฟขอทางรถพ่วงสิบแปดล้อเพื่อที่จะแซง แต่กลับถูกรถพ่วงคันดังกล่าวปาดหน้า ด้านท้ายของรถพ่วงสะบัดมาชนกับรถปิกอัพที่โดยสารมา

นายบุญถมคนขับรถตกใจจึงได้หักหลบลงข้างทาง ทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ส่วนรถพ่วงสิบแปดล้อได้หลบหนีไป

ด้าน พ.ต.ท.สมพงษ์ อุดมเดช ร้อยเวร สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำจากพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น จากคำให้การทราบว่าถูกท้ายรถพ่วงสิบแปดล้อสะบัดมาชนทำให้รถเสียหายตกลงข้างทาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป