xs
xsm
sm
md
lg

ตม.หนองคายรวบ 2 หนุ่มผิวสีถือวีซ่าปลอมเข้าเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตรวจคนเข้าเมืองจ.หนองคาย รวบ 2 หนุ่มผิวสี ถือวีซ่าปลอมเข้าเมืองไทย
หนองคาย - ตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย รวบ 2 หนุ่มนักธุรกิจ และนักฟุตบอลสุรินทร์ เอฟซี ถือใช้วีซ่าปลอมเข้าเมืองไทย เผยเป็นล็อตเดียวกับหมายเลขที่หายไปจากสถานทูตไทยในมาเลเซีย แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธอ้างทำอย่างถูกต้อง

วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง จ.หนองคาย พ.ต.อ.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผกก.ตม.จ.หนองคาย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ สว.ตม.จ.หนองคาย และกำลังจำนวนหนึ่งร่วมกันจับกุมตัว นายบารุด วานาโย อายุ 42 สัญชาติบุรุนดี พร้อมพาสปอร์ตที่มีหมายเลขวีซ่า เอ 4049935 ซึ่งเป็นหมวดดวงตราวีซ่าการเดินทางเข้าประเทศไทยหมายเลขที่สูญหายไปจากสถานทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย

นายฟิเลมอน สอตตี้ อายุ 23 ปี สัญชาติกานา นักฟุตบอลทีมสุรินทร์ เอฟซี พร้อมหนังสือเดินทางที่มีหมายเลขวีซ่า 848623 ซึ่งไม่มีอักษรตัวเอ (A) กำกับนำหน้าหมายเลขวีซ่า และได้ทำวีซ่ามาจากกงสุลใหญ่แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว ที่คาดว่าจะเป็นวีซ่าปลอม ขณะยื่นเอกสารเข้าประเทศไทย

จากการสอบสวน นายบารุด วานาโย ให้การว่า ตนมาอยู่ในประเทศไทยได้ 4 ปี เป็นนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าจากประตูน้ำไปยังประเทศในแอฟริกา ซึ่งได้ทำวีซ่าหนังสือเดินทางมาอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน พ.ย.55 มีนายหน้าชาวอินเดียมาแนะนำตนว่า สามารถทำวีซ่าหนังสือเดินทางให้ได้ ตนได้เสียค่าใช้จ่ายให้แก่นายหน้าคนดังกล่าวไป 10,000 บาท ซึ่งในวันนี้ตนเดินทางไปต่อวีซ่าที่สถานทูตไทยในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว แล้วเดินทางกลับเข้าประเทศไทยที่ จ.หนองคาย ยืนยันว่าตนได้มาอย่างถูกต้อง จึงขอปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

ขณะที่ นายฟิเลมอน สอตตี้ ให้การว่า มาอยู่ในประเทศไทยได้ 2 ปีครึ่งเพื่อเล่นฟุตบอล โดยเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าให้แก่ทีมพะเยา เอฟซี และปัจจุบัน ได้เล่นให้แก่ทีมสุรินทร์ เอฟซี ในตำแหน่งเดิม ส่วนดวงตราวีซ่านั้น ตนทำมาจากกงสุลใหญ่ แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว และยืนยันว่าทำถูกต้องเช่นกัน

พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ สว.ตม.จ.หนองคาย กล่าวว่า สำหรับดวงตราวีซ่าการเดินทางเข้าประเทศไทยของนายบารุด นั้น เป็นดวงตราวีซ่าอยู่ในหมวดที่สูญหายไปจากสถานทูตไทย กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย

ส่วนหนังสือเดินทางของนายฟิเลมอน พบความผิดปกติ เนื่องจากไม่มีอักษรภาษาอังกฤษตัว เอ(A) กำกับด้านหน้าหมายเลขวีซ่า อีกทั้งลายเซ็นกำกับก็เป็นลายเซ็นของกงสุลใหญ่คนเก่า ขณะนี้ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว จึงจับกุมทั้ง 2 คนในข้อหา มีและใช้แผ่นปะการตรวจลงตรา (วีซ่า) ปลอม และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น