บุรีรัมย์ - หนุ่มปริญญาตรีบุรีรัมย์ เครียดตกงานหลังเปิดร้านซ่อมมือถือไม่ประสบผล เกิดอาการคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเองหวิดวอดทั้งหลัง จนท.ระดมฉีดน้ำสกัดหวั่นลามบ้านข้างเคียง พ่อแม่สุดเอือม เตรียมส่งตัวรักษาเกรงก่อเหตุซ้ำอีก
วันนี้ (23 ส.ค.) พ.ต.ท.แดน คงพลปาน สารวัตรเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ที่ ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานรถดับเพลิงกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ และรถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวายจีก เข้าช่วยเหลือฉีดน้ำดับเพลิง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 50 หมู่ 14 ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นบ้านขนาด 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน เนื่องจากเป็นไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปไหม้บ้านข้างเคียง โดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
หลังเพลิงสงบได้เข้าไปตรวจสอบบนชั้น 2 ของบ้านบริเวณที่เกิดเหตุไฟลุกไหม้ซึ่งเป็นห้องนอนพบกองเสื้อผ้าถูกไฟลุกไหม้ และฝาพนังห้องถูกไฟไหม้จนหมด ส่วนหลังคาเสียหายบางส่วน
จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายนาน วิธีรัมย์ อายุ 65 ปี ขณะเกิดเหตุไม่อยู่ไปทำธุระที่บ้านญาติ มีเพียง นายสามารถ วิธีรัมย์ อายุ 29 ปี ลูกชายอยู่คนเดียว แต่หลังเกิดเหตุไม่พบตัว โดยก่อนเกิดเหตุ นายนาน ผู้เป็นพ่อได้มีปากเสียงกับ นายสามารถ ลูกชาย ซึ่งที่ผ่านมามักทะเลาะกันบ่อยครั้งจนบางวันต้องออกไปนอนอยู่กระท่อมเฝ้านา ส่วนภรรยาไปพักอยู่บ้านญาติเนื่องจากเอือมระอาลูกชาย เพราะหลังตกงานได้แต่ขอเงิน หากขัดใจ หรือไม่ได้เงินตามที่ต้องการจะทำร้ายพ่อแม่
โดยก่อนหน้านี้ นายสามารถ ได้เรียนจบปริญญาตรีจากสถาบันมีชื่อแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์ และได้ไปเปิดร้านรับซ่อมโทรศัพท์มือถืออยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ เพราะเป็นคนเก่งมีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และประวัติที่ผ่านมา นายสามารถ เคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาททั้งที่กรุงเทพมหานคร และ จ.นครราชสีมา อยู่บ่อยครั้ง แต่ระยะหลังไม่ได้เดินทางไปรักษา และขาดการทานยา
กระทั่งธุรกิจร้านรับซ่อมมือถือไม่ประสบผลสำเร็จ จึงกลับมาอยู่ที่บ้านจึงเกิดอาการกำเริบคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง จากเหตุการณ์ดังกล่าว พ่อและแม่จะได้ส่งตัวไปรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพราะเกรงจะก่อเหตุซ้ำอีก