โอละพ่อ! จับลูกเป็นตัวประกันที่แท้เกลียดผัว

สภ.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุแม่บังเกิดเกล้าจับลูกสาว-ลูกชาย วัย 13 ปี และ 11 ปี ไว้เป็นตัวประกัน โดยมีมีดเป็นอาวุธ ที่แท้ไม่ต้องการให้สามีเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับลูกภายในห้อง ส่วนเด็กทั้ง 2 คนปลอดภัยดี

วันนี้ (5 มิ.ย.) พ.ต.ท.นภณัฐ แปงเครื่อง รอง ผกก.ป.สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งเหตุแม่จับลูกขังไว้ภายในห้องโดยมีมีดเป็นอาวุธ ภายในตึกแถวเลขที่ 122/182 ซ.จอมทอง 16 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งเหตุ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร อัมพรายน์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น 1 คูหา พบนายชัยเดช ภาณุบำรุงพงษ์ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอโดยแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ด้านบนห้องนอนชั้น 2 มีนางศิรินทิพย์ ภานุบำรุงพงษ์ อายุ 39 ปี ภรรยาของตนเองได้กักตัวลูกสาววัย 13 ปี และลูกชายวัย 11 ปี อยู่บนห้อง โดยไม่ยอมออกจากห้องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งตนกลัวว่าลูกจะได้รับอันตราย

นายชัยเดช กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาของตนเองซึ่งเป็นผู้ป่วย และเคยเข้าทำการรักษา ที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา และก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ภรรยาตนซึ่งชอบเล่นคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจและไม่ได้พักผ่อน ได้เกิดอาการเครียดขึ้นมา โดยภรรยากลัวว่าตนจะไปทำร้ายลูกทั้ง 2 คน จึงได้เอาลูกทั้ง 2 คนขึ้นไปขังไว้ภายในห้อง และไม่ยอมให้ใครเข้ามาในห้อง เนื่องจากกลัวว่าตนเองจะมาทำร้ายลูก กระทั่งเช้าก็ไม่ยอมเปิดห้อง กลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย กระทั่งมีชาวบ้านซึ่งทราบเรื่องกลัวว่าเด็กจะถูกทำร้าย จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบ

พ.ต.อ.สุนทร เปิดเผยว่า ภายหลังจากทราบเรื่องได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และได้ขึ้นไปพูดคุยกับนางศิรินทิพย์ อยู่บริเวณหน้าห้อง พบว่านางศิรินทิพย์ก็ไม่ได้เอามีดจี้ลูกทั้ง 2 คนแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวนอนดูทีวีอยู่เพียงแต่ไม่อยากให้ใครเข้ามาภายในห้องเท่านั้น และไม่อยากให้นายชัยเดช เข้ามาในห้อง ส่วนเด็กทั้ง 2 คนปลอดภัยอยู่ในอาการปกติดีอยู่ในห้อง และไม่อยากให้พ่อเข้ามาภายในห้องอยู่แล้ว

ขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับทางรถ รพ.ใกล้เคียงมาจอดรอ เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านและสื่อมวลชนทราบ กลัวว่าเมื่อข่าวเผยแพร่ออกไป จะทำให้เด็กมีปมด้อยกับเรื่องดังกล่าว เป็นเพียงเรื่องภายในครอบครัวเท่านั้น และไม่ใช่การจับเด็กเป็นตัวประกันแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 14.00 น.นางศิรินทิพย์ ได้ยอมเปิดประตูให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาภายในห้อง โดยนางศิรินทิพย์ มีอาการหวาดกลัว ถือถุงพลาสติก ภายในมีมีดปอกผลไม้ นอกจากนี้พบว่า นางศิรินทิพย์ ได้ฉีกแบงก์ทิ้งเกลื่อนภายในห้อง ส่วนเด็กทั้ง 2 คนปลอดภัยไม่ได้มีอาการหวาดผวาแต่อย่างใด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนางศิรินทิพย์ ส่งรพ.นครธน เพื่อรักษาอาการทางจิตต่อไป โดยไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด