ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แฉสิ้นไส้ เจ้าหน้าที่รัฐ สมคบนายทุน เขมือบป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่มอก-แม่ลำพัน กว่า 2 หมื่นไร่ - ตั้งโต๊ะเก็บหัวคิวออก ส.ป.ก.-ค่าเลื่อนยนต์-ขุดทราย ซ้ำร้ายใช้ “ฝนเหลือง” เหนืออ่างเก็บ “แม่กองค่าย”
วันนี้ (21 ส.ค.) เจ้าหน้าป่าไม้และชาวบ้าน นำเอกสารพร้อมภาพถ่ายการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าแม่มอก-แม่ลำพัน” ท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย หมู่ 10 ต.ตลิ่งชัน อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังผืนป่าดังกล่าวถูกบุกรุกเพิ่มอีกนับร้อยไร่ ด้วยฝีมือของกลุ่มชาวบ้านร่วมกับนายทุน และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าบางคน เพื่อเตรียมการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 แจกชาวบ้าน เพื่อขายนายทุนต่อในราคาถูก
เจ้าหน้าที่ป่าไม้สุโขทัยคนหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อปี 2554 ป่าสงวนแห่งนี้ถูกบุกรุกไปแล้วกว่า 200 ไร่ เจ้าหน้าที่สามารถยึดไม้ได้กว่า 2,000 ท่อน และยังพบมีการฝังหลักเขตเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อยู่กลางป่าสงวนที่ยังอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ แต่ปัจจุบันได้ย้ายกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมแล้ว
ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีโครงการขอกันคืนพื้นที่ป่าจาก ส.ป.ก.กลับสู่กรมป่าไม้ แต่แค่เดือนเดียวก็พบว่าพื้นที่ป่าถูกบุกรุกเพิ่มอีกหลายร้อยไร่ และมีการตัดถนนผ่านป่าชุมชน-ป่าสงวน เพื่อลักลอบขุดทราย มีการแจ้งเจ้าหน้าที่แล้วแต่ไม่มีการจับกุม อ้างว่าการออก ส.ป.ก.สำเร็จไปแล้ว ส่วนการขุดทรายเมื่อมีการร้องเรียนก็หยุดขุด และย้ายรถออกมา พอเรื่องเงียบก็กลับเข้าไปขุดใหม่
ทั้งนี้ การเอาพื้นที่ป่าไปออก ส.ป.ก.มีค่าใช้จ่ายไร่ละ 1,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จะได้ส่วนแบ่ง 400 บาทต่อไร่ เหลือ 600 บาทเป็นของคนป่าไม้แบ่งกันเอง สำหรับการทำไม้มะค่าที่ห้วยช้างลอด ต้องจ่ายรายวัน เลื่อยยนต์ตัวละ 500 บาท ส่วนค่าเคลียร์ขุดทรายวันละ 3,000 บาท
เจ้าหน้าที่ป่าไม้คนเดิมเผยอีกว่า การบุกรุกทำถนนเข้าป่าสงวนแห่งนี้ นอกจากทำให้สะดวกกับการขนไม้ออกมาแล้ว ยังสะดวกต่อการเข้าไปล่าเลียงผา และลักลอบเก็บมูลค้างคาว ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าถ้ำเจ้าราม ที่น่าห่วง คือ การใช้สารกำจัดวัชพืช เพื่อบุกรุกป่า ซึ่งเป็นสารผสมจากสารเคมี 2 ตัว คือ 2, 4-D และ 2, 4, 5-T หรือที่เรียกว่า “ฝนเหลือง”
เนื่องจากตอไม้เป็นอุปสรรคต่อการไถที่ป่า ก็จะจัดการด้วยการใช้การ์ลอนผสมกับน้ำมันดีเซล หยอดตามตอไม้ ไม่นานก็ผุพัง ทำให้ง่ายต่อการไถบุกเบิก แต่ทั้งการ์ลอนและฝนเหลืองนั้นเป็นสารพิษตกค้างในดิน เมื่อป่าต้นน้ำกลายเป็นที่ทำการเกษตร พอฝนตกลงมาน้ำก็ไหลลงเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย ที่อยู่ด้านล่าง ทั้งคนและสัตว์ดื่มกินเข้าไปก็จะกลายเป็นมะเร็ง
ทั้งนี้ นอกจากป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่มอก-แม่ลำพัน ถูกบุกรุกแล้ว ยังพบว่า มีการบุกรุกที่ป่าแม่พันลำ-แม่มอก บริเวณบ้านโซกเปือย หมู่ 7 ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง พิกัด 47Q 0553429 UTM 1905195 ป่าแม่ท่าแพ-บ้านแม่ทุเลาใน หมู่ 9 ต.กลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม พิกัด 47Q 0552520 UTM 1920998 และพิกัดที่ 47Q 0551926 UTM 1922162 และที่ป่าแม่มอก-พันลำ พิกัด 47Q 0553063 UTM 1931212 เสียหายรวมกว่า 20,000 ไร่อีกด้วย