ป.ป.จ.ลำปางป่วนอีก ป.ป.ช.สั่งล้มกระดาน ตรวจคุณสมบัติใหม่ยกแผง

ลำปาง - ดับฝันว่าที่ ป.ป.จ.ลำปาง หลัง ป.ป.ช.สั่งกรรมการสรรหาล้มกระดาน ตรวจคุณสมบัติใหม่หมด

วันนี้ (21 ส.ค.) นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ผู้สมัครคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจังหวัด (ป.ป.จ.) ลำปาง ลำดับที่ 11 เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำสั่งให้ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปางตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ป.ป.จ.ลำปางใหม่ทั้งหมด รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อร้องเรียนโดยเร็วที่สุด ล่าสุดบ่ายวานนี้ (20 ส.ค.) ป.ป.ช.จังหวัดลำปางได้เรียกตนเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ร่วมกับนายปิยะชาติ อำนวยเวช และนายสำคัญ วรรณบวร ผู้สมัครที่ไม่ได้รับการสรรหา ร้องเรียนการสรรหา ป.ป.จ.ลำปางว่าไม่เป็นไปตามระเบียบ และยังข้องใจผู้ที่ผ่านการสรรหาทั้ง 6 รายว่ามีคุณสมบัติตามมาตรา 103/11 หรือไม่

ทั้งนี้ ประเด็นที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการสรรหา ป.ป.จ.ลำปาง ในส่วนของนางมะลิวรรณได้ร้องให้พิจารณา และเปิดเผยเกณฑ์การพิจารณาของกรรมการสรรหาว่าได้ใช้เกณฑ์ตามระเบียบที่ ป.ป.ช.กำหนดไว้ หรือใช้ดุลพินิจส่วนตัว รวมถึงขอให้เปิดเผยผลงานว่าที่ ป.ป.จ.ทั้ง 6 คนที่ผ่านการสรรหา ว่าคุณสมบัติข้อ (2) เรื่องมีความรู้ความสามารถ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือไม่

เนื่องจากข้องใจในตัวผู้ที่ได้รับการสรรหาบางคนที่คาดว่าจะไม่มีคุณสมบัติครบตามที่ ป.ป.ช.กำหนด และหากพิสูจน์ได้ว่าคณะกรรมการสรรหาใช้ดุลพินิจก่อนการยึดระเบียบและข้อกฎหมายที่ ป.ป.ช.กำหนด จะเดินหน้าฟ้องคณะกรรมการสรรหาทั้งหมดแน่นอน

ขณะที่นายปิยะชาติ อำนวยเวช ได้ร้องขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ 5 ข้อ คือ 1. ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครทุกคนว่ามีคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วนตามระเบียบหรือไม่ 2. ทบทวนผลการสรรหาใหม่ทั้งหมด และพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ผู้สมัครทุกคนตามเกณฑ์การสรรหา 3. ให้ตั้งอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการไม่ได้รับความเป็นธรรม และสรุปผลดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

4. นำเอกสาร หลักฐาน และการแสดงวิสัยทัศน์ของตน เปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับการสรรหาทั้ง 6 คน และให้สรุปชี้ชัดเป็นข้อยุติว่า องค์ประกอบ ภาพรวมทุกอย่างของตนกับผู้ที่ได้รับการสรรหา ใครดีกว่าหรือเหนือกว่าสมควรที่จะเป็นผู้ได้รับการสรรหา

5. หากพิจารณาทุกข้อแล้ว ผลปรากฏว่าตนอ่อนด้อยกว่าก็พร้อมยอมรับผลการพิจารณานั้น แต่หากปรากฏว่าตนเองเหนือกว่าตามเกณฑ์การสรรหา (ตามระเบียบ/ข้อกำหนดการสรรหา) ก็ให้คืนความเป็นธรรมแก่ตนเอง

ส่วนนายสำคัญ วรรณบวร ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอทราบเกณฑ์การคัดสรร ป.ป.จ.ลำปาง ของกรรมการสรรหา วม 4 ข้อ โดยสรุปคือ ต้องการทราบเกณฑ์การพิจารณาสรรหาว่าคณะกรรมการสรรหาได้ใช้ระเบียบที่ ป.ป.ช.กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดหรือไม่ หรือมีการลดหย่อน หรืออนุมาน หรือมีข้อคิดเห็นต่างจากระเบียบและข้อกฎหมายหรือไม่ รวมถึงให้เปิดเผยคุณสมบัติข้อ (2) เรื่องมีความรู้ความสามารถ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือไม่ทั้ง 6 คนเช่นกัน

อนึ่ง คณะกรรมการสรรหา ป.ป.จ.ลำปาง ทั้ง 8 คน ประกอบด้วย นายมงคล สุกใส ประธานกรรมการสรรหา นายประจัญ คำภีระแปง นายวราวุฒิ หน่อคำ นางสาวนงลักษณ์ บุญส่ง พ.ต.ท.สมบูรณ์ บูรณ์พิร นายปรีดา ไชยานุวงศ์ นางพระศรี ปัทมแก้ว และนายเผ่าเทพ บำรุงกิจ มีมติสรรหาผู้สมัคร ป.ป.จ.ลำปาง 6 คน คือ นายชาลีวัฒน์ ทองอยู่ นายณัฏฐพล แสงศรีจันทร์ นายบุญทวี ฉิมพลีย์ พ.ต.อ.เร่า รุ่งเรือง นายสถิต นิตย์สมบูรณ์ และ ผศ.อรรณพ วงศ์วิชัย เพื่อส่งให้ ป.ป.ช.ส่วนพิจารณาคัดเลือกให้เหลือเพียง 3 คน

และก่อนหน้านี้คณะกรรมการสรรหาจาก 9 องค์กรก็เคยยื่นร้องเรียนถึงการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปาง โดยเฉพาะองค์กรสื่อมวลชนที่ขอถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการสรรหา เนื่องจากไม่สามารถยอมรับการดำเนินการและขั้นตอนของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปางที่ไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติองค์กร และตัวบุคคลอย่างเคร่งครัด และไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก และผู้มีส่วนได้เสียตรวจสอบองค์กรที่มาขึ้นทะเบียนเป็นคณะกรรมการสรรหา แม้จะมีการท้วงติงว่าองค์กรบางแห่งมีการตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และไม่มีตัวตนจริงก็ตาม