xs
xsm
sm
md
lg

วุฒิสภาร่วมสำนักทะเบียนมหาดไทย จับคู่ตรวจดีเอ็นเอหาสิทธิพลเมืองไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - คณะกรรมาธิการรัฐสภาร่วมสำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น จับคู่พ่อแม่ลูกที่มีสถานะตกหล่นทางทะเบียนตรวจดีเอ็นเอใช้ยืนยันการเป็นพ่อแม่ลูก เพื่อเพิ่มชื่อให้รับสิทธิการเรียน การรักษาพยาบาล ทำงาน โดยประเทศไทยคาดมีตกหล่นอยู่กว่า 4 แสนราย

วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายอนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ รองประธานวุฒิสภา ร่วมกับสำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เก็บตัวอย่างเลือดของคู่พ่อแม่ลูก ตรวจดีเอ็นเอหาความเชื่อมโยงการเป็นพ่อแม่ลูกให้แก่ผู้มีรายชื่อตกหล่นในทะเบียนราษฎร

โดยวันนี้ มีคู่พ่อแม่ลูก จำนวน 35 คู่ เข้ามารับการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะใช้เวลาตรวจยืนยันความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ลูกกันภายใน 3 วัน จากนั้นคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจะส่งรายงานผลตรวจไปยังสำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือยืนยันสถานะการเป็นพลเมืองให้แก่ผู้ผ่านการตรวจนำไปยื่นขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานทะเบียนราษฎรตามที่มีภูมิลำเนาอยู่ และใช้จัดทำบัตรประจำตัวประชาชน

นายอนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ รองประธานวุฒิสภากล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังประสบปัญหาคนไทยขาดความรู้ จึงไม่ได้แจ้งเกิดให้แก่บุตรหลาน หรือบางครอบครัวมีพ่อเป็นไทย แต่แม่เป็นคนต่างชาติ เมื่อเติบโตขึ้นมาทำให้ลูกขาดสิทธิการเป็นพลเมือง มีผลต่อการศึกษา การทำงาน การเข้ารักษาตัวตามสถานพยาบาลของรัฐ ทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก

คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาสวุฒิสภา จึงทำโครงการเฉลิมพระเกียรติปกป้องสิทธิผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากจน และผู้ยากไร้สู่การเป็นพลเมืองอาเซียน เพราะจากการสำรวจเบื้องต้นพบมีคนที่ขาดสัญชาติจากเหตุผลดังกล่าวอยู่กว่า 4 แสนรายในประเทศ

จึงใช้วิธีการจับคู่ตรวจหาสารทางพันธุกรรมมายืนยันสถานะเป็นผู้เกิดในประเทศไทย มีบิดา หรือมารดาเป็นคนไทยจริง เป็นหลักฐานนำไปสู่การขึ้นทะเบียนราษฎรในระบบของกระทรวงมหาดไทย

โดยปีนี้ตั้งเป้าจับคู่พ่อแม่ลูกใช้ขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 จำนวน 2,986 ราย และอีก 2,982 ราย เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557

ขณะที่ น.ส.ออจันทร์ ผลบัว อายุ 28 ปี ชาวบ้านตำบลจิกเทิง อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี บุตรนางลาวัลย์ สมรัตน์ อายุ 46 ปี เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ตำบลกันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และจับคู่มาตรวจดีเอ็นเอ กล่าวว่า มารดามีอาชีพรับจ้างไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน เมื่อคลอดก็นำมาให้ยายเลี้ยงที่จังหวัดอุบลราชธานี และไม่ได้ไปแจ้งเกิด ทำให้ น.ส.ออจันทร์ และน้องสาวไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ได้เรียนหนังสือจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ช่วงชีวิตวัยสาวออกมาทำงานรับจ้างที่ไม่ต้องใช้เอกสารสมัครงาน มีเอกสารทางราชการครั้งแรกเป็นของโรงพยาบาลเมื่อครั้งถูกรถชน โดยแจ้งไม่ได้พกบัตรประจำตัวมา เจ้าหน้าที่เห็นเป็นเหตุด่วนจึงยอมออกใบตรวจให้ไปรักษา ตลอดเวลาที่ผ่านมา ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ไม่กล้าเดินทางไปไหน เพราะเกรงถูกจับเป็นคนต่างด้าว

เมื่อได้สถานะทางทะเบียนราษฎร และมีบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้มีความรู้สึกโล่งใจ และต่อไปการใช้ชีวิตคงสะดวกสบายขึ้น ทั้งตัวเอง และน้องสาว และจะหางานดีๆ ทำ

กำลังโหลดความคิดเห็น