ระยอง - ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แจงรอผลตรวจสารปรอทครั้งที่ 2 หากยังเกินมาตรฐานสั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทันที โดยทราบผลในวันที่ 15 สิงหาคมนี้
เวลา 16.00 น. วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้กล่าวถึงกรณีที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แถลงผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลอ่าวพร้าว และอ่าวทับทิม เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง และอ่าวอื่นๆ รวม 12 อ่าว โดยระบุว่า ที่บริเวณอ่าวพร้าวมีค่าสารปรอท 2.9 ไมโครกรัมต่อลิตร เกินค่ามาตรฐานที่คุณภาพน้ำทะเลที่กำหนดไว้ 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตร เกินค่ามาตรฐาน 29 เท่า และอ่าวทับทิม มีสารปรอท 0.25 ไมโครกรัมต่อลิตร
นายวิชิต กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วว่า อ่าวพร้าวมีสารปรอทเกินมาตรฐานจริง ซึ่งเป็นผลการตรวจเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อ่าวพร้าวมีคราบน้ำมันอยู่เป็นจำนวนมาก จากกรณีดังกล่าวในเบื้องต้นได้ทำการปรึกษาหารือกับอุทยานแห่งชาติฯ หากเป็นอันตรายให้ดำเนินมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำเพราะอาจเกิดอันตรายได้ และคงต้องรอดูผลตรวจคุณภาพตัวอย่างน้ำทะเลครั้งที่ 2 (8 ส.ค.) ยืนยันอีกครั้งซึ่งจะทราบผลในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจจะไม่พบค่าสารปรอทเกินมาตรฐานก็เป็นได้ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีคราบน้ำมันแล้ว ส่วนกรณีของอ่าวทับทิมนั้นยังไม่ได้รับรายงาน และคาดว่าข่าวอาจจะคลาดเคลื่อน
กรณีของการสำรวจพบปะการังฟอกขาวใน 4 จุดคือ อ่าวน้อยหน่า อ่าวพร้าวด้านใต้ อ่าวพร้าวด้านเหนือ และอ่าวปลาต้มนั้น เป็นเพราะเกิดจากคราบน้ำมัน และอาจส่งผลกระทบต่อปะการังทำให้เกิดความเครียดจึงฟอกขาว อาจจะมีการปิดอ่าวแต่คงไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะบนเกาะเสม็ด ยังมีอีกหลายอ่าวที่มีปะการังสวยงามให้นักท่องเที่ยวดำน้ำชมได้
ส่วนเรื่องของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทางจังหวัดได้เร่งดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน สรุปตัวเลขผู้แจ้งขอรับการชดเชยเยียวยามาแล้วรวมทั้งสิ้นกว่า 3,000 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพประมงเกินกว่าร้อยละ 50 และมีผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาเนื่องจากหลักฐานไม่ครบ 200-300 ราย ส่วนผู้ที่ไม่พอใจสามารถอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการฝ่ายอุทธรณ์ฯ ที่ทางจังหวัดได้แต่งตั้งขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวว่าพบสารปรอทเกินค่ามาตรฐานที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจตามตลาดสด และร้านอาหารก็พบว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าจะทำร้ายกันไปถึงไหน แค่นี้ก็จะอยู่ไม่ได้แล้ว นักท่องเที่ยวลด ชาวบ้านไม่กล้าซื้ออาหารทะเลไปรับประทานกลัวจะเป็นอันตราย กลับมามีข่าวอ่าวพร้าว และอ่าวทับทิมมีสารปรอทเกินมาตรฐาน ห้ามลงเล่นน้ำ เหมือนทิ้งระเบิดเกาะเสม็ดลูกใหม่ วิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วนเพราะตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนมากพออยู่แล้ว
